ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ความเคลือนไหวราคาหุ้น บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) ธุรกิจหลักเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ บริษัทย่อยประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และให้บริการด้านความงาม โดย นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส3/63 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 152 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 7 % และกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท เท่ากับ 54 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทเท่ากับ 12 % จากช่วงเดียวกันของปี่ก่อนที่ ขาดทุน 10.89 ลบ. รายได้รวมงวดไตรมาส3/63 ที่ 456 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 12 % เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/63 ราว 4 % ประกอบด้วย รายได้จากการขายและบริการเครื่องมือแพทย์จำนวน 450 ลบ. ลดลง 4 % เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐประจำปี งบประมาณ 2563 มีการอนุมัติและการเบิกจ่ายล่าช้ากว่ากำหนด – รายได้จากการขายและให้บริการด้านความงามจำนวน 3 ลบ. ลดลง 93 % เมื่อ เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ใน Q3/63 มาจากการขายสินค้าผ่านช่อง ทางการขายออนไลน์ เนื่องจากคลินิกเสริมความงามได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (“COVID-19”) ซึ่งทำให้บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จำเป็นต้องปิดสาขาตามคำสั่งภาครัฐ ส่งผลกระทบต่อฐานะทาง การเงินบริษัทอย่างมีสาระสำคัญ
ฐานะการเงินแกร่ง
ทั้งนี้งบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ในส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัท มีจำนวน 719 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีสาระสำคัญจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เกิดจากการลดสัดส่วนการลงทุนของ WCIH ใน WCIG จากเดิมร้อยละ 100 เหลือร้อยละ 20 (สัดส่วนของบริษัทคงเหลือร้อยละ 11.20) อย่างไรก็ตาม WCIH ยังคงต้องรวมงบการเงินของ WCIG ในงบการเงินรวมของ WCIH เนื่องจากกรรมการ ที่มีอำนาจควบคุมกิจการบริษัท WCIH และ WCIG เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน ผลกระทบจากการลดสัดส่วน การลงทุนใน WCIG มีจำนวน 685 ล้านบาท ถูกแสดงรวมอยู่ใน “ผลต่างจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงิน 6 ลงทุนในบริษัทย่อย” จำนวน 860 ล้านบาท โดยประกอบด้วย ผลต่างจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนเงิน ลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 175 ล้านบาท และบริษัทย่อยทางอ้อม จำนวน 685 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทขอรายงานความคืบหน้ากรณีบริษัท วุฒิศักดิ์คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ให้เงินกู้ ยืมแก่บริษัท ทีพีเอ็น 2018 จำกัด (“TPN”) เป็นเงินจำนวน 100 ล้านบาท ปัจจุบัน วุฒิศักดิ์คลินิก ดำเนินการแต่งตั้งทนายเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อบังคับให้ TPN ชำระหนี้ตามกฎหมาย ให้วุฒิศักดิ์คลินิก
www.mitihoon.com