มิติหุ้น-ออริจิ้น ขึ้นแท่นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรายแรก คว้าใบประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะในโครงการ “Origin Smart City Rayong” หลังวางโมเดลพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการสู่เมืองอัจฉริยะอย่างรอบด้าน เดินหน้าผนึกสตาร์ทอัพด้านพลังงาน ENRES และมือบริหารนิติบุคคล “พรีโม” นำ AI และ IoT บริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางครบวงจร เปลี่ยน “เคนซิงตัน ระยอง” สู่คอนโดอัจฉริยะ ช่วยลูกบ้านใช้พลังงานในอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์กลุ่มแรกปลายปีนี้
นายอรุช ช่างทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มุ่งมั่นบูรณาการร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั่วประเทศ ล่าสุด โครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) ภายใต้แนวคิด Beyond A Living Platform ชีวิตอนาคตกำหนดได้ที่นี่ เมกะโปรเจ็คท์มิกซ์ยูสระดับแฟล็กชิพของบริษัท บนพื้นที่กว่า 24 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท ของบริษัทยังคงเดินหน้าตามโรดแมป โดยล่าสุด ได้รับมอบใบประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จาก คณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จัดโดย สำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย (ดีป้า) ภายใต้สังกัด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งนับได้ว่าเป็นโครงการเมืองอัจฉริยะ 1 ใน 13 เมือง ล่าสุด และเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยรายแรกที่ได้รับมอบใบประกาศดังกล่าว ในงาน Thailand Smart City Week 2020 มหกรรมแสดงเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในรูปแบบ Real Digital Event เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะระดับโลก โดยยกระดับโครงการที่อยู่อาศัย ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ ทั้งความเป็น Smart Product ที่มีฟังก์ชั่นต่างๆ ควบคู่กับ Service Excellence ที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนหนึ่งของเมืองอัจฉริยะระยองและเพื่อให้ลูกค้าที่พักอาศัยได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, New Business Hub, โรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotels Group (IHG) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย เป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ระยะแรก คือกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย ได้แก่ 1.โครงการนอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong) คอนโดมิเนียม High-rise 33 ชั้น 537 ยูนิต ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดใน จ.ระยอง คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/2564 และ 2.โครงการเคนซิงตัน ระยอง (Kensington Rayong) คอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 697 ยูนิต ซึ่งจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ช่วงปลายปีนี้ โดยล่าสุดได้รับรางวัลโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI – Thai Prix D’ Excellence Awards 2020 ประเภท Residential Condominium มาได้สำเร็จ จัดโดยสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล รางวัลดังกล่าวถือเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและความพิถีพิถันในการออกแบบ เพื่อสร้างสรรค์เมืองอัจฉริยะแห่งใหม่ให้กับชาวระยอง
“ที่ผ่านมา เราวางแผนกันอย่างเข้มข้นในการพัฒนาโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง ภายใต้แนวคิด Beyond A Living Platform มุ่งมั่นพัฒนาทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โครงการเชิงพาณิชย์ ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางในบริเวณ 24 ไร่ของโครงการ ให้ตอบโจทย์ความเป็นเมืองอัจฉริยะให้มากที่สุด เพื่อให้โครงการของเราเป็นเมืองอัจฉริยะอย่างแท้จริง สอดคล้องกับที่ depa พยายามมุ่งมั่นกับเมืองอัจฉริยะ 7 ด้าน และเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ทั้งคนในพื้นที่ จ.ระยอง ตลอดจนผู้บริโภคที่จะเข้ามาใช้บริการเมืองอัจฉริยะแห่งนี้ ใบประกาศนี้จึงถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความพร้อมและการทำงานอย่างหนักของบริษัทในการพัฒนา Smart City และเราจะจับมือพันธมิตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็นเมืองอัจฉริยะตามแผนงาน” นายอรุช กล่าว
นายอรุช กล่าวอีกว่า เพื่อให้ผู้บริโภคในโครงการได้รับประโยชน์จาก Smart City ล่าสุด บริษัทได้สร้างความร่วมมือกับ ENRES สตาร์ทอัพผู้นำเทคโนโลยีด้าน IoT (Internet of Things) และ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ด้านเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานทางเลือกใหม่ ผู้ชนะรางวัลสุดยอดสตาร์อัพไทยในโครงการเร่งการเติบโตดิจิทัลสตาร์อัพด้านเมืองอัจฉริยะ “Smart City” หรือ depa Accelerator Program ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับการจัดการอาคาร พัฒนาและบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากร เพื่อนำนวัตกรรมของ ENRES มาเติมเต็มให้ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง เป็นเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบที่สุด รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้พักอาศัยในโครงการ โดยจะนำระบบ AIoT Facility Management ช่วยในการบริหารจัดการอาคาร ตรวจสอบ วิเคราะห์ และควบคุมอัตโนมัติ ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี AIoT รองรับการเชื่อมต่อการบริหารจัดการ Smart City อาทิ เช่น Demand Reponse, Energy Control, Pollution, และ Renewable Energy
ทั้งนี้ ออริจิ้นยังร่วมกับ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด หรือ Primo ผู้ให้บริการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือออริจิ้น เข้ามาช่วยยกระดับการบริหารงานนิติบุคคลภายในโครงการออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง พร้อมคอยตรวจสอบและดูแลร่วมกับการทำงานของ AIoT Facility Management เพื่อให้แก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายในอาคาร และลดการสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็นจากการทำงานผิดปกติของระบบ เช่น ท่อน้ำรั่ว การรั่วของน้ำยาในระบบปรับอากาศ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าไฟฟ้า ค่าซ่อมแซมความเสียหายของอุปกรณ์ได้กว่า 5-20%
“ความเป็นมืออาชีพของพรีโม และความอัจฉริยะของ AIoT Facility Management จาก ENRES จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย รวมถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือได้ว่าออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง เป็นโครงการแรกๆ ที่นำเทคโนโลยี IoT และ AI มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตการอยู่อาศัย ซึ่งจะเริ่มจากโครงการเคนซิงตัน ระยองที่เราเตรียมส่งมอบปลายปีนี้ หลังจากนี้ เราจะยังเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมร่วมกับพันธมิตรสตาร์ทอัพต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยในเครือออริจิ้นให้มีประสิทธิภาพ และช่วยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของสตาร์ทอัพในเมืองไทย” นายอรุช กล่าว
สำหรับบริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในเครือ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI มุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการมิกซ์ยูสในทำเลศักยภาพ เจาะทั้งตลาด Local Demand และกลุ่มคนที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ EEC ทั้งปัจจุบันและอนาคต ปัจจุบัน มีโครงการระดับแฟล็กชิพหลายโครงการอยู่ใน จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง เช่น โครงการออริจิ้น ดิสทริค ศรีราชา โครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง
www.mitihoon.com