ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เมกาเคม (ประเทศไทย) หรือ MGT ผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษสำหรับอุตสาหกรรม โดย “บล.โนมูระ พัฒนสิน” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน MGT มีความสนใจเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) ธุรกิจในอุตสาหกรรม Lifestyle Biotech (เครื่องสำอาง, ยา, อาหาร) เพื่อหวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในระยะถัดไป
พื้นฐานแกร่ง-มาร์จิ้นสูง
โดย MGT มีจุดเด่น คือ เป็น distributor ที่มี Gross margin สูง (ครึ่งแรกปี63,ปี62,ปี61 ที่ 32.7%,31.0%,29.3% ตามลำดับ) เนื่องจากบริษัทให้การบริการลูกค้าอย่างครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษา จัดหาผลิตภัณฑ์ และช่วยทำการทดลอง โดยผลิตภัณฑ์ส่วนมากบริษัทได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในประเทศ อีกทั้งเป็นสินค้าเฉพาะ และลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าประจำ จึงทำให้รายได้ของบริษัทมีความมั่นคง
ทั้งนี้ MGT กำลังเดินหน้าลงทุนโครงการ Expanded Graphite ร่วมกับพาร์ทเนอร์ญี่ปุ่น (MGT ถือหุ้น 49%) ซึ่งบริษัทจะนำเทคโนโลยีจากพาร์ทเนอร์มาผลิตและส่งไปขายที่ญี่ปุ่น (มีลูกค้าในมือแล้ว) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในปี 64 คาดสนับสนุนให้ฐานรายได้เติบโตมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/63 คาดจะเติบโตได้ดี เพราะมีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามามากขึ้น หลังโรงงานเริ่มเปิดดำเนินงานตามปกติ อีกทั้งคาดว่ายอดขายเอทานอลแปลงสภาพยังอยู่ในระดับสูง (แม้อาจไม่เท่าช่วง peak ในQ2/63) โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการสั่งของเข้ามาในคลังสินค้ามากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการขนส่งในช่วง COVID ทำให้คาดว่าบริษัทมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
กำไรนิวไฮ-P/Eต่ำ9เท่า
ดังนั้นทั้งปี 63 คาด MGT กำไรนิวไฮในกรอบ 110 -130 ล้านบาท (EPS 0.28 – 0.33 บ.) เติบโตกว่า 80% จากปีก่อน คิดเป็น PER20F 8.2 – 9.7 เท่า (ต่ำกว่า Trailing PE ย้อนหลัง 3 ปีที่ 15 เท่า) และ P/BV 2.4x เบื้องต้นมองสามารถ Trading ได้ในกรอบ 3.15 – 3.38 บาท อิง P/BV 2.8x – 3x จากฐานกำไรที่ทำนิวไฮ รวมถึง ฐานROE ยกระดับสู่ 25% (เทียบปี 62 ที่ 18%) และยังเป็นกรอบ P/BV ที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดที่เคยซื้อขาย 4.6 เท่า
ด้าน “นายวิทยา อินาลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ทั้งปี 63 มั่นใจทั้งกำไรสุทธิและรายได้รวมจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมแตะที่ระดับ 850 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 24% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 681.78 ล้านบาท
เนื่องจาก“ธุรกิจจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์” ที่คิดเป็นสัดส่วน 75-80% ของรายได้รวมปริมาณออเดอร์ยังเข้ามาต่อเนื่อง โดยบริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า 1,000 ชนิด ครอบคลุมในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงยังได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 80% ได้แก่ “บจ.เมกาเคม พลัส” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ประเภทเอทานอล ปัจจุบันปริมาณออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
www.mitihoon.com
