ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE โดยนายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 ไว้ที่ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 10-20% สูงกว่าปีนี้คาดมีรายได้รวมตามเป้า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากมีการส่งมอบโครงการที่มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 1.53 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดขายปี 64 ตั้งเป้าไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท มากกว่าปีนี้ที่คาดทำได้ตามเป้า 7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 64 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปีหน้าจำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.27 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 63 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับงบลงทุนปี 64 คาดใช้เงินราว 8 พันล้านบาท สูงกว่าปีนี้ที่ใช้ไป 5.5 พันล้านบาท โดยงบลงทุน แบ่งเป็น การใช้ซื้อที่ดิน 2 พันล้านบาท และใช้ลงทุนร่วมกับพันธมิตร 1.6 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนที่นำมาใช้มาจากกระแสเงินสดของบริษัท,การออกหุ้นกู้ และเงินกู้ยืมสถาบันการเงินบางส่วน
ส่วนการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) ในบริษัทสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด ซึ่งได้ร่วมทุนกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 20% ใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาท คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จในเดือนม.ค. 64
ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยมีหนี้ที่บริหารรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท และหนี้ที่เป็น NPA อยู่ 600 ล้านบาท การเข้ามาร่วมทุนของบริษัทในครั้งนี้จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งมากขึ้น และบริษัทสามารถนำสินทรัพย์บางรายการใน AMC ไปต่อยอดในการพัฒนาโครงการในอนาคต เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจ จากศักยภาพของธุรกิจที่เห็นการเติบโตได้อีกมากในอนาคต ซึ่งปัจจุบันได้เตรียมที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA ไว้แล้ว คาดว่าในอีก 2-3 ปี มีแผนนำธุรกิจ AMC ที่ร่วมทุนกับ SAWAD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้อนุมัติให้ทำการแตกพาร์จาก 3 บาท เป็น 1 บาท และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัท รุ่นที่ 2 หรือ NOBLE-W2 ไม่เกิน 342,353,381 หน่วย เพื่อจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า ในสัดส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม : 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) โดยมีอายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิวอร์แรนต์ 1 หน่วย : 1 หุ้นสามัญ ในราคาหุ้นละ 8 บาท
โดยวัตถุประสงค์ของการแตกพาร์เพื่อให้พาร์ของ NOBLE ใกล้เคียงกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน และ การออกวอร์แรนต์เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในอนาคต จากนโยบายของบริษัทที่พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นและช่วยเสริมให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งมากขึ้นสำหรับการดำเนินงานในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการเป็นผู้นำ Top 5 ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทย ซึ่งจะต้องรอการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ และหากผู้ถือหุ้นอนุมัติคาดว่า การปรับราคาพาร์จะมีผลต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงต้นเดือนม.ค. 64 และในช่วงของวอร์แรนต์ NOBLE-W2 คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในช่วงกลางเดือนม.ค. 64
www.mitihoon.com
