มิติหุ้น-SIS ผู้ค้าส่งอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ ส่งซิกผลงานไตรมาส 4/63 พีคแรง หลังขานรับยุด WFH และการเข้าสู่ 5G เต็มตัว หนุน “ลูกค้าบริษัท-ราชการ” สั่งออเดอร์เพียบ แถมมือถือแบรนด์จีน Mi รุ่นใหม่และอุปกรณ์ Xiaomi สร้างยอดขายถล่มถลาย เชื่อทั้งปี63 ฟันกำไรนิวไฮทะลุ 600 ล้านบาท เติบโต 41.71% แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 24 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) หรือ SIS ทำธุรกิจ IT Distribution ผู้แทนจำหน่ายสินค้าไอทีที่มีเทคโนโลยีหลากหลาย โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 คาดกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากยอดขายที่เติบโตอย่างโดดเด่น
โชว์ผลงานQ4พุ่งนิวไฮ
โดย SIS เป็นผู้ค้าส่งอุปกรณ์ไอทีรายใหญ่ ที่กำลังได้รับอานิสงส์ช่วง Covid-19 ทำให้เกิดกระแส WFH และการเข้าสู่ 5G อย่างเต็มตัวนั้น ล้วนทำให้ลูกค้าทั้งลูกค้าส่วนบุคคล บริษัทและหน่วยงานราชการต่างตื่นตัวป้อนคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)เข้ามามากขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนและปรับปรุงระบบ โดยสินค้าส่วนใหญ่ของ SIS เป็นสินค้าในกลุ่ม Information Technology (IT) ที่ครอบคลุมหลายประเภท เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ แท็บเล็ต ระบบเครือข่าย ระบบจัดเก็บข้อมูล software Data Center อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบสำรองข้อมูล กล้องวงจรปิดและอุปกรณ์เก็บภาพ สมาร์ทโฟน และ บริการ Cloud Service
อีกทั้งยอดขาย “กลุ่มมือถือ” เติบโตโดดเด่นมาก โดยเฉพาะแบรนด์จีน Mi รุ่นใหม่และอุปกรณ์ Xiaomi คาดจะสร้างกำไรเติบโตแรง โดยทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮกว่า 600 ล้านบาท เติบโต 41.71% จากปีก่อน P/E เพียง 10 เท่า แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 24 บาท
“บล.เคทีบี (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เพราะยอดขาย “กลุ่มมือถือ” ที่คาดว่าจะดีขึ้น ภายหลังที่มีการเปิดตัว Mi 10T pro และมีแรงตอบรับที่ดี รวมทั้ง Gross profit margin จะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จากการรับ rebate เป็นปกติในไตรมาส 4/63
เคาะราคาเป้าหมาย24บ.
ดังนั้นทั้งปี 63-64 คงประมาณการกำไรสุทธิที่ 593 ล้านบาท เติบโต 40% และ 729 ล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อน ขณะที่รายได้เติบโต 21% และเติบโต 11% จากลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้ามาของเทคโนโลยี 5G, การใช้ Data center และ Cloud business เพิ่มขึ้นเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานด้าน IT ของลูกค้า
อีกทั้ง SG&A to sale ปรับตัวลงจากปี 62 ที่ 4.2% เป็น 3.6% (9M20 = 3.7% ลดลงจาก 9M19 = 4.3%) ตามการประหยัดจากขนาด และ Gross profit margin จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 6.8% (จากปี 62 ที่ 6.7%) จากสัดส่วนรายได้กลุ่ม Value-added ที่มี margin สูง เพิ่มขึ้นเป็น 12% (จาก 11% ใน 62) จากความต้องการสินค้า และบริการที่รองรับ Cybersecurity เพิ่มขึ้น ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 24 บาท
www.mitihoon.com