สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์ 23-27 พ.ย. 63 และคาดการณ์สัปดาห์ 30 พ.ย.- 4 ธ.ค. 63 โดยหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

136

 

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

  • บริษัท AstraZeneca ของอังกฤษ ร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford ประกาศการทดสอบวัคซีนป้องกัน COVID-19 มีประสิทธิผลเฉลี่ยอยู่ในระดับ 70% (ฉีด 2 โดส อยู่ที่ 62% และ 1.5 โดส อยู่ที่ 90%)
  • ทางการสหรัฐฯ แจ้งเริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจบริหารสู่ว่าที่ประธานาธิบดี นาย Joe Biden ขณะที่นาย Biden ประกาศเตรียมเสนอชื่อคณะรัฐมนตรี พร้อมควบคุมวิกฤติ COVID-19 และเยียวยาเศรษฐกิจ
  • บริษัท Shell ในไนจีเรียประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) การส่งมอบน้ำมันดิบ Brass River (กำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวัน) เมื่อ 24 พ.ย. 63 เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดท่อขนส่ง

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

  • Baker Hughes Inc. รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะ (Rig) น้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุด 25 พ.ย. 63 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 10 แท่น มาอยู่ที่ 241 แท่น

แนวโน้มราคาน้ำมัน

ตลาดน้ำมันเป็นขาขึ้น ด้วยแรงหนุนจากกระแสข่าววัคซีน โดย AstraZeneca นับเป็นผู้พัฒนาลำดับที่ 3 ซึ่งสามารถรายงานความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ด้านภูมิรัฐศาสตร์ อิหร่านประกาศจะ “ล้างแค้น” อิสราเอล หลังจากนักวิทยาศาสตร์ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์คนสำคัญ ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะราน เมื่อ 27 พ.ย. 63 ให้ติดตามการประชุมของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) ในช่วง 30 พ.ย.- 1 ธ.ค. 63 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะขยายระยะเวลาการลดปริมาณการผลิตน้ำมันที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ออกไปถึงไตรมาส 1/64 จากแผนเดิมซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค. 63

www.hotmail.com