วิริยะประกันภัย งัดปฏิบัติการ FIRST AID กู้รถยนต์น้ำท่วมภาคใต้ พบมีรถทำประกันเสียหายรวมกว่า 20 ล้าน

327

วิริยะประกันภัย งัด “ปฏิบัติการ FIRST AID” รุดกู้และซ่อมรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบหลังประสบอุทกภัยจากพายุมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ประเมินเบื้องต้นมีรถเอาประกันภัยไว้กับบริษัทฯ เกือบ 150 คัน ความเสียหายรวมกว่า 20 ล้านบาท เผยจังหวัดนครศรีธรรมราชมากสุด 102 คัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ระดมธารน้ำใจจากวิริยะจิตอาสาทั่วประเทศส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ช่วยประชาชนในพื้นที่

นายประสิทธิ์ สุนะชูแสง ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 5 (ภาคใต้) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยอันเนื่องมากพายุมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ยังให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ในหลายจังหวัด ส่งผลให้ประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ที่สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วง และในบางพื้นที่ยังคงต้องคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบริษัทวิริยะประกันภัย มีการรับประกันภัยเอาไว้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และคาดว่าน่าจะประสบภัยน้ำท่วมไม่ต่ำกว่า 200 คัน อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ได้รับแจ้งจากผู้เอาประกันภัยตามรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนในพื้นที่ ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2563เวลา 17.00 น. มีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วมครั้งนี้ จำนวนรวมทั้งสิ้น 135 คัน โดยจังหวัดที่มีรถยนต์ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช 102 คัน รองลงมา คือ จังหวัดสงขลา 18 คัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 9 คัน จังหวัดพัทลุง 4 คัน และจังหวัดปัตตานี 2 คัน ประเมินความเสียหายเบื้องต้นรวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการเข้าไปช่วยเหลือรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจำนวนมาก ด้วยการนำโมเดล “ปฏิบัติการ FIRST AID” อันเป็นระบบที่บริษัทฯ ได้คิดค้นขึ้นมา เพื่อดำเนินการกู้และซ่อมแซมรักษารถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมจากการเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศไทยเมื่อปี 2554 และยังคงมีการพัฒนากระบวนการทำงานอยู่เสมอ

อีกทั้งเมื่อเกิดเหตุอุทกภัยในครั้งต่อๆ มา บริษัทฯ ยังได้นำ “ปฏิบัติการ FIRST AID” มาใช้จนเป็นผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นได้ว่าไม่ว่าอุทกภัยจะเกิดขึ้นที่ไหน และมีรถยนต์เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการสินไหมทดแทนก็สามารถทำงานได้ทันที โดยไม่ต้องรอการสั่งการ ตลอดไปถึงการส่งทีมงานจากส่วนกลางเข้าไปช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว