มิติหุ้น-ปัจจุบัน โลกกำลังประสบกับภาวะโลกร้อนซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิกาศ เป็นต้น รวมไปถึงกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ การหันมาใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกอื่นๆ จึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลง
ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN และ กรรมการ บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด หรือ SAP เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว”
“บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจโซล่าร์ รูฟท็อป ให้มีจำนวนการผลิตครบ 110 เมกะวัตต์ ในปี 2023 ซึ่งเปรียบเสมือนปลูกต้นไม้ จำนวนกว่า 765,000 ต้น ทำให้สามารถช่วยลดจำนวนก๊าซเรือนกระจกได้ราว 26,000 ตัน เลยทีเดียว นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนและทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนแล้ว โซล่าร์ รูฟท็อปยังช่วยเหลือผู้ประกอบการและธุรกิจในการลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย โดยเน้นใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานสูงสุด และระบบวิศวกรรม ทั้งระบบ ที่ได้มาตรฐาน ISO แบบครบวงจร ทั้ง ISO9001:2015, ISO14001:2015, ISO45001:2018 ทำให้เจ้าของกิจการผู้ติดตั้งมั่นใจกับระบบไฟฟ้าที่สะอาดและเสถียร สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ถึง 20 ปี โดยมีระบบบำรุงรักษาให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตลอดอายุสัญญา ทำให้ผู้ประกอบการประหยัดตั้งแต่วันแรกจนถึงปีที่หมดอายุสัญญาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ”
ทั้งนี้ บริษัท สแกน แอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด ผู้นำด้านโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar Rooftop แบบครบวงจรทั้งในภาคเอกชนและกลุ่มอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ในมือรวมกว่า 17 เมกะวัตต์ และยังคงมุ่งหน้าเดินสู่เป้าหมายที่ 20 เมกะวัตต์ ในปลายปี 2020 นี้
www.mitihoon.com
