TQM วางเกมขึ้นแท่นผู้นำอาเซียน จับตากำไรปีนี้พุ่งแตะ689ล. (14/12/63)

131

มิติหุ้น – TQM เดินเกมต่อจิ๊กซอว์ หวังก้าวเป็น “Digital Insurance Broker” อันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สยายปีกสู่ CLMV ตั้งธงหนุนเบี้ยโตทะยานทะลุ 1.5 หมื่นล้านบาท ฟากโบรกมองอนาคตเด่นจัด ให้ราคาเป้าหมาย 148.50 บาท   

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ผู้นำด้านที่ปรึกษาประกันภัยและการเงิน เดินหน้าสยายปีกสู่ CLMV หนุนฐานโตต่อเนื่อง โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TQM เป็น Holding ที่ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ผ่านบริษัท TQM Broker และ TQM Life ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัยขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในไทย มีเบี้ยประกันผ่านบริษัทสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี

โบรกชี้กำไรปีนี้689ล้านปีหน้าโตอีก20%

ฝ่ายวิจัยได้คาดการณ์กำไรในไตรมาส 4/63 จะเติบโต 17.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) หลังมีช่องทางขายใหม่และฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น โดยเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ราว 177 ล้านบาท โต 4.1% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)  จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกค้าเข้ามาต่อประกันมากกว่าปกติ

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ทำให้ SG&A/Sales อ่อนตัวลงเหลือ 23.8% จาก 28.2% หนุนให้ทั้งปี 2563 คาดจะมีกำไร 689 ล้านบาท โต 35.8% จากช่วงเดียวกันปีกก่อน ขณะที่ปี 2564 คาด TQM จะมีกไรสุทธิราว 833 ล้านบาท โต 20.9% หลังได้อานิสงค์บวกจากการฟื้นตัวของเบี้ยประกันตามภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึง Awareness ในการทำประกันภัยของคนไทยที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงจากการเกิดโรคระบาด

นอกจากนี้คาดจะเริ่มเห็นผลจากการเพิ่มช่องทางขายใหม่ ทั้งความร่วมมือกับ FSMART และ TJN ชัดเจนขึ้นตามลำดับ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดยังทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อประกันผ่าน Digital Platform มากขึ้น

ศักยภาพโตแกร่งกลับคำแนะนำซื้อ”

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมองว่า TQM เป็นผู้นำในตลาดนายหน้าประกันวินาศภัยที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมากในอนาคต จากที่อุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง อีกทั้งในอนาคตบริษัทกำลังมุ่งสู่การเป็นบริษัท Insurtech รายใหญ่ในไทยและในภูมิภาคที่มีความพร้อมทั้งระบบเทคโนโลยี ฐานลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ โดยได้ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ TQM โดยวิธี DCF ได้มูลค่าพื้นฐานปี 2564 ที่ 148.50 บาท (WACC 6.8%,Terminal Growth 4.5% ใกล้เคียงกับการเติบโตของเบี้ยประกันในไทย) ซึ่ง ณ ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 22.2% อีกทั้งคาดมี Div. Yield อีก 2% จึงกลับมาแนะนำ “ซื้อ”

ประกาศรุกCLMV

                ด้าน ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ TQM ระบุก่อนหน้านี้ว่า บริษัทยังเดินหน้าขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาด CLMV ซึ่งเป็นการเดิมตามแผนการก้าวสู่การเป็น “Digital Insurance Broker” อันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อผลักดันเบี้ยประกันภัยแตะ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 ตามเป้าหมาย

โดยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 บริษัทได้เข้าลงทุนในกิจการ บริษัท ทีโอ 2020 จำกัด จำนวน 49,998 หุ้น ราคา 100 บาท/หุ้น โดยบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99 % วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทร่วมทุน (JV) กับกลุ่มบริษัทAsia Investment and Financial Services Co., Ltd. (AIF) ในนามบริษัท BIC Insurance จำกัด เพื่อเปิดตลาดประกันภัยในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีสัดส่วน 49% ของทุนจดทะเบียน ภายหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จและโอนหุ้นทั้งหมดได้ภายในปี 2563 โดยจะเริ่มดำเนินธุรกิจตามแผนงานที่ได้ลงนามตาม MOU ต่อไป

www.mitihoon.com