ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ( GUNKUL) โดย นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติอนุมัติให้กับคณะกรรมการบริหารในการพิจารณาให้บริษัท ย่อย เข้าซื้อหั้นสามัญร้อยละ 100 ของ บริษัท INT Energy Pte. Ltd. (“INT”) ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กําลังการผลิตรวม 50 MWp จังหวัด Tay Ninh ประเทศสาธารณรัฐ สังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งถือโดยบริษัท Tan Chau Energy Joint Stock Company (“TCE”) (“โครงการฯ”) ด้วยมูลค่าการ ลงทุนโครงการจํานวน 47,140,000.00 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1,471,097,980.00 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ถัวเฉลี่ยถ่วงนํ้าหนักระหว่างธนาคาร 1 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ : 31.207 บาท) นั้น
ซึ่งบริษัทฯ มีความประสงค์จะลงทุนในโครงการฯ โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท INTซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัท TCE ด้วยมูลค่าการลงทุนรวม 47,140,000.00 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1,471,097,980.00 บาท โดยคิด เป็นขนาดของรายการคํานวณตามหลักเกณฑ์ของประกาศตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามวิธีการคํานวณในเรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน พ.ศ. 2547เท่ากับร้อยละ 3.632 ของมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทฯ ตามงบการเงินรวมฉบับล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผู้สอบบัญชีได้สอบทานแล้ว ซึ่งจัดเป็นรายการตามวิธีการคํานวณขนาดรายการโดยใช้เกณฑ์มูลค่า รวมของสิ่งตอบแทน ทั้งนี้หากคํานวณผลรวมของขนาดรายการในรอบระยะเวลา6 เดือน (นับรวมถึงรายการข้างต้น) ถือเป็นอัตราร้อยละ 8.189และเข้าเกณฑ์ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมกรรมการบริษัทฯและแจ้งผ่านระบบสารสนเทศ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องด้วยเป็นรายการได้มาซึ่งหุ้น
ด้านผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ การเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท INT เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใน ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นอกจากจะเป็นการขยายฐานการดําเนินงานของบริษัทฯ ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเติบโตทั้งในด้านสินทรัพย์และผลประกอบการของบริษัทฯ การเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้นับเป็นการการดําเนินงานตามนโยบายของ บริษัทฯ ในการก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นํา และมีส่วนร่วมสําคัญในการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในและ ต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมีความเสี่ยงจากการดําเนินงานตํ่า ตลอดจนสามารถสร้างแหล่งที่มาของรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาวเนื่องจากโครงการ ดังกล่าวได้มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แหล่งเงินทุนที่ใช้ บริษัทฯ จะได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง ร่วมกับเงินลงทุนของบริษัทฯ บางส่วน
ด้าน บล.เอเซีย พลัส ประเมินปรับเพิ่มประมาณการและ FV ใหม่ เพื่อสะท้อนการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ที่ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 50 MW ซึ่งภายใต้ประมาณ การใหม่ราคาหุ้นในปัจจุบันยังมี upside กว่า 26% อีกทั้ง PER ปี 64 จะ ลดลงเหลือเพียง 10 เท่าจึงมองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุนแนะนำ “ซือ” เป้า 3.20 บาท/หุ้น
www.mitihoon.com
