มิติหุ้น-JMT ผลงานแรงคาดยอดจัดเก็บหนี้ทะลุเป้า พร้อมเล็งทุ่ม 6,000 ลบ.ซื้อหนี้เพิ่ม ด้านโบรกเล็งอัพกำไรปี 63-64 เพิ่มลุ้นปี 64 กำไรทะลุ 1.2 พันลบ. พร้อมเคาะราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท/หุ้น
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ประกอบธุรกิจ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ 2) ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ 3) ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดย นักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ได้ปรับประมาณการกำไร JMT ปี 63-64 ขึ้น 6% และ 5% จากประมาณการก่อนหน้ามาอยู่ที่ 996 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อน และ1,251 ล้านบาท เติบโต 26% ตามลำดับ โดยปรับประมาณการเนื่องจากแนวโน้มยอดจัดเก็บในงวด 3/63 ที่ 985 ล้านบาท ดีขึ้นจากครึ่งปีแรกมาก เป็นผลจากฐานมูลหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการซื้อหนี้ในช่วงต้นปี และ คาดว่าในช่วงปลายปีจะมีโอกาสในการซื้อหนี้ที่เพิ่มขึ้นอีก ทำให้คาดว่ากระแสเงินสดและกำไรใน 4/63 จะยังดีต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ในปี 64 ยอดจัดเก็บจะทะลุ 1 พันล้านบาทต่อไตรมาสได้
เคาะเป้าหมายใหม่ 40 บาท
ฝ่ายวิจัยจึงปรับราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 64 ที่ 40 บาท อิงวิธี DCF ด้วยแนวโน้มกำไรที่คาดว่าจะดีต่อเนื่อง บวกกับการปรับราคาเป้าหมายทำให้กลับมามี Upside จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
เล็งซื้อหนี้ก้อนโตเพิ่ม
ด้านนายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMT เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/63 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง เพราะนอกจากบริษัทจะมียอดจัดเก็บเพิ่มขึ้นแล้ว บริษัทจะเดินหน้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารอีกด้วยเนื่องจากที่ผ่านมา ข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าหนี้ด้อยคุณภาพในส่วนของหนี้ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของผู้บริโภค ปรับตัวสูงไปอยู่ที่ระดับ 152,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามสภาวะหนี้สินครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เป็นผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
ดังนั้นบริษัทมีโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงิน และช่วยอุตสาหกรรมการเงินของประเทศในการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อคืนลูกค้าที่มีศักยภาพทางด้านการเงินโดยในปี 63 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มงบลงทุนใช้ซื้อหนี้เป็น 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่ง JMT มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง