ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากกรณี ที่“ราชกิจจานุเบกษา” ปลดล็อค ให้ “กัญชา” ในส่วนเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบที่ไม่รวมดอก และสารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล และสารประกอบในอัตราส่วนที่กำหนด ปลดออกจากสารเสพติดตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63 นั้น คาดจะส่งผลดีต่อหุ้น DOD
DODขายรับปลดล็อค‘กัญชา’
เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารอยู่ในกลุ่มที่ผลักดัน “เรื่องยกเลิกกัญชาออกจากสารเสพติด” รวมถึงมีการเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ในเรื่องที่จะผลิตสินค้าประเภทอาหารเสริมที่เป็นพืชสมุนไพรนี้ และไม่ว่า DODจะทำเองหรือจะให้บริษัทอื่นทำแทนยังไงก็ได้ประโยชน์
ส่วนภาพรวมธุรกิจของ DOD นั้น ภายหลังจากปรับโครงสร้าง ทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งมากขึ้น มีผลิตภัณฑ์หลากหลายมากขึ้น และมีความพร้อมทั้งทีมผลิต และจำหน่ายทั้งทางตรง ทางอ้อม ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4/63 จะเติบโตต่อเนื่อง จากการเริ่มส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าอาหารเสริมรายใหญ่หลายราย ดังนั้นทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิจะเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี ล่าสุด Fwd-PE ต่ำในระดับ 12 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มผลิตและจำหน่ายอาหารเสริม จึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 12 บาท
รายใหญ่ป้อนออเดอร์
ด้าน “นายธนิน ศรีเศรษฐี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค หรือ DOD เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้ารายใหญ่สั่งออเดอร์ใน “กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” ที่เป็นประเภทผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอก และผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องเข้ามาต่อเนื่อง
รวมถึงบริษัทยังมีออเดอร์ในส่วนของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ “กลุ่มโพรไบโอติก” รูปแบบเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (Active) ซึ่งเบื้องต้นจะเริ่มทยอยส่งมอบสินค้า และรับรู้รายได้กำลังการผลิตเฟสแรกตั้งแต่ไตรมาส 4/63 เป็นต้นไป โดยการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “กลุ่มโพรไบโอติก” ในเฟสแรกจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทผงในซองขนาดเล็ก 3 กรัม พร้อมรับประทานมีกำลังการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านซองต่อเดือน คาดเป็นส่วนผลักดันรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 ล้านบาทต่อปี และหลังจากนั้นก็จะพิจารณาขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้น และมีแนวทางเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภทแคปซูลในเฟสถัดไป
โชว์พื้นฐานแข็งแกร่ง
ทั้งนี้แม้บริษัทจะมีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัท DOD แต่แนวโน้มรายได้และกำไรยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นการสะท้อนถึงศักยภาพธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคสมัยใหม่ที่ปรับพฤติกรรมมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และสำหรับปี 2564 ภายหลังการปรับโครงสร้างภายในของบริษัทย่อยประสบความสำเร็จแล้วจึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งปีทองที่จะสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างแน่นอน
www.mitihoon.com
