LALIN เป้าหมายมีไว้พุ่งชน กำไรปกติไตรมาส3 ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

736

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ หรือ LALIN ว่า บริษัทรายงานรายได้และกำไรปกติ 3Q63 ที่ 1.4 พันลบ (+11.3% QoQ, +19.3% YoY) และ 308 ลบ. (+13.3% QoQ, +28.6% YoY) สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดโอนโครงการแนวราบที่ทำได้ดีต่อเนื่องจาก 2Q63 หลังได้รับอานิสงส์ของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคและการเคลื่อนย้ายของอุปสงค์แนวสูงมายังแนวราบในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19

อัตรากำไรขั้นต้น 3Q63 อยู่ที่ 39.1% ทรงตัวทั้ง QoQ และ YoY แต่คงระดับสูงเป็นอันดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม แสดงถึงผลกระทบที่จำกัดจากการแข่งขันทางด้านราคาของตลาดแนวราบ
สำหรับอัตราส่วน SG&A/Sales อยู่ที่ 12.4% ลดลง 44bps QoQ และ 239bps YoY จากการปรับเปลี่ยนไปใช้ช่องโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น คาดเป็นปัจจัยบวกระยะยาวต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ในช่วง 3Q63 LALIN เปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ คือ Lio Bliss และ Lanceo บางนา-ศรีวารีน้อย มูลค่า 1.0 พันลบ. และ 550 ลบ. ตามลำดับ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว (คาดทำ Take-up rate ได้แล้วราว 10-15%) เป็นปัจจัยสำคัญหนุนการเติบโตของรายได้ในปี 2564

4Q63 ยังดีต่อเนื่อง…แนวโน้มยอดโอนทะลุเป้า
ในช่วง 9M63 บริษัทมียอดโอนอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 4.0 พันลบ. เติบโตโดดเด่นกว่า 18% YoY และคิดเป็น 76% ของประมาณการของเราและเป้าหมายทั้งปี 2563 ของบริษัทที่ 5.2 พันลบ. ขณะที่แนวโน้มยอดโอน 4Q63 คาดทำได้ดีต่อเนื่องที่ราว 1.3 พันลบ. +/- จึงคาดมีโอกาสสูงที่จะทำได้มากกว่าเป้าและทำให้ประมาณการกำไรปี 2563 ของเรามี Upside risk ราว 5-10%

สำหรับยอดการเปิดตัวสะสม 9M63 อยู่ที่ 7 โครงการ รวมมูลค่า 5.1 พันลบ. และคาดไม่มีโครงการเปิดตัวเพิ่มเติมในช่วง 4Q63 อย่างไรก็ดี เราคาดเบื้องต้น ยอดการเปิดตัวในปี 2564 จะมีการเติบโตอย่างน้อย 10% ที่ 5.5 พันลบ. โดยจะเน้นการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดมากขึ้น (ในปี 2563 สัดส่วนการเปิดตัวบ้านเดี่ยวต่อทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่เพียง 1:3 )

คงคำแนะนำ ซื้อ คาดกำไรปี 2564 เติบโตต่อเนื่อง … แต่ PER2564 ยังต่ำเพียง 5.3x
เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 9M63 ที่เติบโตโดดเด่น 29% YoY ในขณะที่ฐานะทางการเงินยังแข็งแกร่งโดยอัตราส่วน Net D/E ณ สิ้น 3Q63 อยู่ที่เพียง 0.44x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 1.0x อย่างมีนัยสำคัญ
เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 และ 2564 ที่ 1.0 พันลบ. (+17.2% YoY) และ 1.2 พันลบ. (+13.3% YoY) ตามลำดับ และคาดแผนการเปิดตัวโครงการใหม่เชิงรุกในปี 2564 จะส่งผลให้กำไรปกติทำระดับเหนือ 1.0 พันลบ. ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป

ราคาปิดวานนี้เทียบเท่า PER2564 ที่ 5.9x ตำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 7.0x คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2564 ที่ 9.05 บาท/หุ้น (อิง PER2564 เท่าเดิมที่ 7.1x เทียบเท่า +1.0 SD) และคงให้เป็น Top pick ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ Mid-to-small Capitalization พร้อมคาดเงินปันผลงวด 2H63 และงวดปี 2564 ที่ 0.25 บาท/หุ้น และ 0.55 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 3.3% และ 7.2% ตามลำดับ