อมาโด้ ประกาศความสำเร็จ 11 เดือน กวาดรายได้เกินเป้าทะลุ 2,300 ล้านบาท เติบโต 228% เดินกลยุทธ์ธุรกิจครบทุกมิติ แบบคิดไว ทำไว ทั้งด้านการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค การขยายช่องทางขายที่มีประสิทธิภาพสอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New normal พร้อมฟื้นการขายผ่านเทเลเซลล์ได้โต 100% รวมทั้งส่งสินค้าไซส์เล็กบุกตลาดแมสพร้อมสร้างแบรนด์บนเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ และลุยเปิดช่องทางขายบนอี-มาร์เก็ตเพลสชั้นนำ พร้อมปล่อยหมัดเด็ดสื่อสารการตลาดด้วยพรีเซ็นเตอร์และสปอนเซอร์ชิป ปลื้มรับรางวัล Consumer Satisfaction Awards 2020 การันตรีคุณภาพอมาโด้ เอช คอลลาเจน ครองใจคนเกาหลีพร้อมอีก 2 รางวัลใหญ่ในประเทศไทย ชี้ช่วงปลายปีจนถึงตรุษจีน ยังเป็นโอกาสทอง เทรนด์สุขภาพยังมาแรง ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเป็นขวัญปีใหม่และตรุษจีน
นายธนา ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม- พฤศจิกายน2563 อมาโด้มียอดรายได้รวมทะลุ 2,300 ล้านบาท เติบโตกว่า 228% เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวมในปี 62 ที่ 694 ล้านบาท และยังเป็นรายได้ที่เติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปีนี้อมาโด้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,200 ล้านบาทเมื่อต้นปี ด้วยยอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วส่งผลให้ต้องปรับเป้ายอดขายครั้งที่สองเพิ่มเป็น 1,800 ล้านบาทเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาโดยผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดสุขภาพในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดวิตามินและอาหารเสริม เนื่องจากการเกิดโรคอุบัติใหม่ได้เร่งให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงดีอยู่เสมอประกอบกับอมาโด้ได้วางแผนธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ครบทุกมิติ อย่างรวดเร็วให้ทันต่อความต้องการของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
ทั้งนี้ ประกอบไปด้วยกลยุทธ์แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดในกลุ่มสุขภาพกลุ่มความงาม และกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยการส่งผลิตภัณฑ์ อมาโด้ ไฮ ทัช แอลกอฮอล์ เจล ในราคาจับต้องได้ออกสู่ตลาดให้ผู้บริโภคมีทางเลือกซื้อเจลแอลกอฮอล์ในราคาสมเหตุสมผล เปิดตัวผลิตภัณฑ์ อมาโด้ เอช คอลลาเจน สำหรับกลุ่มความงาม (บิวตี้) โดยเฉพาะ พร้อมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ อมาโด้ บี–ลินซ์ สำหรับผู้สูงอายุและกลุ่มคนนอนไม่หลับ และยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ อมาโด้ อิมมู วิตามินอาหารเสริม เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคต้องเผชิญปัญหามลพิษ ฝุ่น PM2.5 และไข้หวัดสายพันธุ์ต่างๆ กลยุทธ์พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New normal ด้วยการผสานช่องทางขายที่มีประสิทธิภาพเอาไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ
โดยช่องทางหลักยังเป็นช่องทางจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ที่มีอยู่ 25 ราย ถือเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ที่มีศักยภาพทั่วประเทศ และได้ฟื้นช่องทางจัดจำหน่ายผ่านเทเลเซลล์ ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ และยังคงเป็นช่องทางที่แข็งแกร่งในปัจจุบัน โดยช่องทางดังกล่าวมียอดขายกว่า 600 ล้านบาทเติบโตถึง 100% พร้อมทั้งการพัฒนาสินค้าไซส์เล็กวางจำหน่ายบน เซเว่นอีเลฟเว่น ทั่วประเทศ เพื่อบุกตลาดมวลชน (Mass Market) มียอดขายถึง 10 ล้านบาท และเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าของอมาโด้ ทั้งยังเดินหน้าขยายช่องทางขายผ่าน อี-มาร์เก็ตเพลส Lazada และ LINE Thailand และอมาโด้ยังได้เปิดช่องทางขายและโปรโมทแบรนด์ผ่านร้านค้าอมาโด้หรือคี-ออส บนศูนย์การค้าชั้นนำกว่า 44 สาขา เพื่อเป็นการพัฒนาช่องทางขายแบบ Omni-Channel ผสานช่องทางขายออนไลน์ออฟไลน์ เพื่อให้บริการผู้บริโภคแบบไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์สื่อสารการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์ ด้วยพรีเซ็นเตอร์ด้วยการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชีย ฮยอนบิน ในผลิตภัณฑ์อมาโด้ เอช คอลลาเจน สำหรับคอลลาเจนเพื่อความงาม และยังมี ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก เป็นพรีเซ็นเตอร์กลุ่มคอลลาเจนเพื่อสุขภาพ พร้อมทั้งเปิดตัว ดุ๊ก ภาณุเดช พรีเซ็นเตอร์ ซีเนียร์จับกลุ่มคนสูงวัย ควบคู่ไปกับการเป็นสปอนเซอร์ชิปรายการใหญ่ 10 Fight 10 ซีซั่น 2 เวทีประกวดมิสแกรนด์ 2020 และมิสทิฟฟานี่ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาดและสื่อสารแบรนด์ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
“ปีนี้นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของอมาโด้ด้วยยอดขายที่ทะลุเป้าถึง 228% และยังได้รับ 3 รางวัลใหญ่แห่งปี ได้แก่รางวัลแรก เอช คอลลาเจน ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ คว้ารางวัล “CSA” หรือ Consumer Satisfaction Awards 2020 เอช คอลลาเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจนผงชงดื่ม จากผลสำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภคในประเทศเกาหลี จัดโดย “Money Today” หนังสือพิมพ์ชื่อดัง
โดยผู้บริโภคเกาหลีเลือกให้ เอช คอลลาเจน เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมทั้งด้านสินค้าและบริการ รางวัลที่สองNo.1 Brand Thailand และรางวัลที่สาม Product of the Year 2020 ในหมวดผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชงดื่มแบบผง เป็นการการันตีคุณภาพและมาตรฐานภายใต้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามินแบรนด์อมาโด้ในประเทศไทย ทั้งนี้ในส่วนยอดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้และต้นปีหน้าเชื่อว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ด้วยกระแสรักสุขภาพยังคงเติบโตส่งผลให้ผู้คนมองหาและเลือกจับจ่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ไปเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนอีกด้วย” นายธนากล่าว