ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอไอเอ ประเทศไทย เป็นบริษัทประกันชีวิตรายแรกในประเทศที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ออกสู่ตลาดเมื่อปี พ.ศ. 2552 ซึ่งตลอดระยะกว่า 11 ปีที่ผ่านมา ประกันยูนิต ลิงค์ ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งตลาดของเบี้ยประกันภัยปีแรก (FYP) ในธุรกิจประกันยูนิต ลิงค์ อยู่กว่า 35% เป็นอันดับหนึ่งในตลาด1 โดยเอไอเอ มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้ตัวแทนประกันชีวิตของเรามี IC License ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะมีส่วนช่วยในการแนะนำผลิตภัณฑ์และวางแผนทางด้านการเงินให้กับลูกค้าได้มีความมั่งคั่งและมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
นอกจากนี้ การที่เราจัดตั้ง บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าถึงความมุ่งมั่นที่เราต้องการช่วยลูกค้าในด้านการวางแผนการลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ของเอไอเอ และล่าสุดเราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันยูนิต ลิงค์ ‘เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ (AIA Infinite Wealth Prestige)’ ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการเงินที่มอบโอกาสให้ลูกค้าได้ก้าวสู่การลงทุนระดับสากล
โดยได้รับการสนับสนุนจาก บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการประสานความร่วมมือกับผู้จัดการกองทุนระดับโลก
ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ Baillie Gifford, BlackRock และ Wellington Management พัฒนากองทุนรวมต่างประเทศที่พิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้าเอไอเอ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตและการเงินที่ดีขึ้น ตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ – Healthier, Longer, Better Lives”.
นายเอกรัตน์ ฐิติมั่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เอไอเอ ประเทศไทย เผยว่า “ผลิตภัณฑ์ เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ เป็นแบบประกันในกลุ่มยูนิต ลิงค์ ที่มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าใน 2 ด้านหลักๆ คือ การวางแผนเพื่อส่งต่อความมั่งคั่ง หรือ เตรียมความพร้อมเพื่อวัยเกษียณ ซึ่งเหมาะสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาความอุ่นใจจากความคุ้มครองประกันชิวิต และโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางการเงิน โดยมีกองทุนเด่นถึง 3 กอง
ได้แก่ AIA Global Aggressive Allocation Fund (ความเสี่ยงสูง), AIA Global Moderate Allocation Fund (ความเสี่ยงปานกลาง) และ AIA Global Conventional Allocation Fund (ความเสี่ยงต่ำ) ผ่านผู้บริหารกองทุนระดับโลก ทั้ง Baillie Gifford, BlackRock และ Wellington Management ซึ่งมีความคุ้มครองเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท และสามารถเลือกระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัยได้ตามความต้องการ ทั้งแบบ 5 ปี 10 ปี 15 ปี และ 20 ปี พิเศษเพิ่มขึ้นด้วยส่วนลดค่าการประกันภัย2 20% และ 30% ของอัตราค่าการประกันภัย สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีสุขภาพมาตรฐาน และสุขภาพดีกว่ามาตรฐาน ตามลำดับ
นอกจากนี้ ที่พิเศษสุดเฉพาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อแบบประกันยูนิต ลิงค์ ยังได้รับโบนัสพิเศษยามเกษียณ3 0.25% ของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ยประกันภัยหลักอีกด้วย ซึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้เราเน้นเจาะไปที่กลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง (High Net Worth) เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าตลาดลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีโอกาสเติบโต อีกทั้งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มองหาทางเลือกที่คุ้มค่าและได้รับผลประโยชน์ที่มั่นคงในระยะยาว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ จึงตอบโจทย์อย่างยิ่ง และสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่ชาญฉลาด ซึ่งลูกค้าจะได้รับทั้งผลประโยชน์ความคุ้มครองชีวิต และผลตอบแทนจากการลงทุน ที่สำคัญลูกค้าที่ซื้อแบบประกัน เอไอเอ อินฟินิท เวลท์ เพรสทีจ ยังมีสิทธิ์เป็นสมาชิก เอไอเอ เพรสทีจ คลับ (AIA Prestige Club) พร้อมรับเอกสิทธิ์พิเศษอีกมากมาย”