ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC โดยบทวิเคราะห์ บล.เอเชียเวลท์ ประเมินว่า ฝ่ายวิจัยเริ่มสัญญาณที่ตลาดกลับให้ความสนใจเพิ่มขึ้น เพราะปัจจัยที่เคยสร้างแรงกดดันต่อรายได้ในปี 63 มีแนวโน้มผ่อนคลายลง โดยผลกระทบกำลังซื้อที่ชะลอและซิมท่องเที่ยวที่หายไป (2% ของรายได้) เริ่มได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นหลังมีข่าวดีเรื่องวัคซีนโควิด-19 นำไปสู่การฟื้นตัวในปี 64
ส่วนการแข่งขันแม้ยังรุนแรง แต่ก็เริ่มทรงตัว สภาพแวดล้อมดังกล่าวยืนยันภาพรายได้ที่อยู่ในจุดต่ำสุด ขณะที่เริ่มเห็น Upside เปิดเพิ่ม หลังเริ่มเปิดบริหาร 5G เชิงพาณิชย์ พบว่าการกำหนดโครงสร้างราคาในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะคู่แข่งสำคัญ TRUE ที่มีศักยภาพใกล้เคียงสุด กำหนดราคาแพ็คเกจต่ำสุดของ 5G สูงกว่า ARPU เฉลี่ยเกือบ 3 เท่าตัว ที่ราว 699 บาทต่อเดือน ขณะที่ DTAC ยังมีศักยภาพบริการ 5G จำกัด ใน 1-2 ปีนี้ ทำให้เกิด Upside ต่อ ARPU ที่กำหนดในสมมติฐาน
นอกจากเรื่อง Downside ที่จำกัดของ ADVANC ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องต้นทุนด้วย เนื่องจากถือครองคลื่น 5G มากที่สุด อีกทั้งคลื่นหลัก 2600 MHz ก็มีเครื่อง 5G รองรับได้จำนวนมาก จึงเชื่อว่าลดความจำเป็นในการประมูลคลื่นเพิ่ม ขณะเดียวกันต้นทุนที่ตามมาจากการลงทุน ยังมีโอกาสเพิ่มต่ำกว่าที่คาด จากอานิสงส์ต้นทุนโครงการ 3G 4G ที่เริ่มทยอยตัดจ่ายครบตามอายุใช้งาน 7 ปี ที่เข้ามาชดเชยต้นทุนค่าเสื่อมราคาระบบ 5G ภาพรวมเชื่อว่ากำไร ADVANC ปี 64 จะไม่ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะทรงตัวมั่นคงได้ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท และคาดหวัง Upside หลายส่วนทั้งรายได้และต้นทุนในปี 64
ทั้งนี้ อีกจุดที่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าหนุนราคาหุ้น ADVANC คือ กระแสเงินทุนไหลเข้าปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มสื่อสารก็เป็นเป้าหมายการลงทุนที่โดดเด่น เนื่องจากราคาหุ้น Laggard เมื่อเทียบกับ SET ขณะที่ ADVANC ยังมีรูมให้ต่างชาติถือหุ้นเพิ่มเติมได้สูงสุดในกลุ่มที่ 13.3% สูงกว่า DTACที่ถือครองเพิ่มไม่ได้แล้ว และ TRUE ที่ถือครองเพิ่มได้อีกเพียง 3.8%
ภายใต้แนวโน้มผลประกอบการที่น่าสนใจสุดในกลุ่ม คือรักษาฐานกำไรได้ในช่วงลงทุน และมีความพร้อมเติบโตหลังจากนั้น เชื่อว่า ADVANC มีโอกาสกลับมาเป็นตัวเลือกที่ Flow สนใจ บวกกับมูลค่าพื้นฐานปัจจุบันยังให้ Upside สูง 23.2% และคาดหวัง Yield ราวปีละ 3.5% แนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com
