ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) โดย นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวคณะกรรมการตรวจการจ้างมีมติ 6 ต่อ 2 ยังไม่เห็นชอบการขยายระยะเวลาปฏิบัติงานตามสัญญาเนื่องจากผลกระทบจากความล่าช้าในการจัดหาผู้รับจ้างานประกอบอาคารด้านสายสัญญาณ (ท่อ สาย เต้ารับ) งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและงานระบบโสตทัศนูปกรณ์ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (การขอขยายระยะเวลาก่อสร้าง ครั้งที่ 5) นั้น
ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงให้ทราบ ดังนี้
1. บริษัทฯ ขอยืนยันว่า งานประกอบอาคารด้านสายสัญญาณ (ท่อ สาย เต้ารับ) งานระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและงานระบบโสตทัศนูปกรณ์ ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกจัดจ้างขึ้นใน ภายหลังเป็นปัญหาและอุปสรรคทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถทำงานก่อสร้างได้ตามแผนงานและกำหนดระยะเวลา ในการก่อสร้างงานตามสัญญาของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ ได้มีหนังสือเลขที่ SINO-THAI /J.2436/L-1243/RO ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2563 โต้แย้งแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานเลขาธิการสภา ผู้แทนราษฎร
2. บริษัทฯ ได้มีหนังสือเลขที่ SINO-THAI/J.2436/L-1242/RO ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ขอใช้สิทธิ ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรพิจารณางดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายระยะเวลา ทำงานตามสัญญาหรือข้อตกลงที่ได้รับผลกระทบจากรณีไรคดิดเชื่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิต 19 ตาม สัญญาว่าจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ทั้งนี้เป็นไปตามหนังสือ ของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง เลขที่ กค (กวจ) 04052/ว423 ลงวันที่ 10 กันยายน 2553 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
3. บริษัทฯ ได้มีหนังสือเลขที่ SINO. THAI/J.2436/L-1245 RO. ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ขอใช้สิทธิ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2559 เรื่อง การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้าง ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท เพิ่มเติมจากมติ ที่ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 และเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2537 โดยขอร้สาทเสีในการขึ้น คว12ช่วยเหลือและเครหนอ ตอบรับเป็นจำนวน 150 วัน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขและหมาณฑ์ ล้อ 4.2.3
กรณีที่ 3(1) ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทั้งนี้เป็นไปตามหนังสือของบริษัทฯเลขที่ SINO-THAI/J.2436/L-347/RO.ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ตามที่ได้ขอใช้สิทธิรับความช่วยเหลือไว้
อาศัยข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงดังที่บริษัทฯ ได้ชีแจงมาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า สามารถดำเนินงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และอาคารประกอบได้จนแล้วเสร็จและไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของบริษัทฯ แต่อย่างใด
www.mitihoon.como
