ประเด็นการลงทุน
TOA ผู้นำผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวชั้นนำในประเทศไทย และ อาเซียน ผลประกอบการปี 2560-2562 มีการเติบโต ปี2563 จะประคองตัวติดลบเล็กน้อยแม้เผชิญกับปัจจัยลบเรื่องCovid-19 แนวโน้มปี 2564-2565 จะกลับมาเติบโต จากการเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “MEGA PAINT Warehouse” และ ยกระดับบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ “WHO Service” บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นในมือสูง 6 พันล้านบาท เราเริ่มต้นแนะนำ ซื้อ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 เท่ากับ 40 บาท บนฐาน Forward P/E เฉลี่ยประมาณ 35 เท่า
ผู้นำผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวชั้นนำในประเทศไทย
TOA เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวชั้นนำในประเทศไทย (ส่วนแบ่งตลาด 48.7%) และ อาเซียน (ส่วนแบ่งตลาด 13%) มีประสบการณ์มากกว่า 55 ปี มีโรงงาน 11 แห่ง ในอาเซียน คือ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ลาว เมียนมา กัมพูชา และ อินโดนีเซีย รองรับการเติบโตในอนาคต
ปี2563 จะประคองตัว แนวโน้มปี 2564-2565 คาดจะกลับมาเติบโต
TOA มีสินค้าครบ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึง สินค้า Premium สามารถจัดหาโซลูชั่นให้ลูกค้า มีการขายร่วมกับเซอร์วิส สำหรับลูกค้าโครงการ นำหน้าคู่แข่ง ทำให้ TOA สามารถแย่ง Market share จากคู่แข่ง เราคาดผลประกอบการปี 2563 จะประคองตัวกำไรไม่ทรุดลงมากหนักลดลงเพียง 3% เหลือ 2,098 ล้านบาท แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยลบ Covid-19 แนวโน้มปี 2564-2565 คาดจะกลับมาเติบโต มีการเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “MEGA PAINT Warehouse” ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและบริการจากทีโอเอครบวงจร และ ยกระดับบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ “WHO Service” ด้วยโซลูชั่นงานการก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน คาดจะมีกำไรที่เติบโตเฉลี่ย 8%CAGR สู่ระดับ 2,429 ล้านบาท ในปี 2565
ฐานะการเงินแข็งแกร่ง คาดปันผลเพิ่ม
TOA มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือ และ เงินลงทุนระยะสั้นสูง 6,365 ล้านบาท ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2563 จ่ายปันผลมากขึ้นเป็น 0.27 บาท ครึ่งหลังปี 2563 คาดกำไรจะดีขึ้นจากครึ่งปีแรก เราคาดจะจ่ายปันผลเพิ่มเป็น 0.28 บาท รวมจ่ายปันผลกำไรปี 2563 เท่ากับ 0.55 บาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทน 1.6% เพิ่มจากที่จ่ายปันผลกำไรปีก่อน 0.50 บาท
ความเสี่ยง : ภาวะเศรษฐกิจ ก่อสร้าง ในภูมิภาคและในประเทศ / ต้นทุนวัตถุดิบหลักเป็นไปตามราคาน้ำมัน / ภาวะการแข่งขันกับบริษัทคู่แข่ง
www.mitihoon.com