SO โควิดดันงานOutsourceรุ่ง จ่อรุกลูกค้ากลุ่มแบงก์-ยานยนต์(05/01/64)

196

มิติหุ้น – SO รับอานิสงส์เชิงบวกโควิดระบาดรอบใหม่ มั่นใจหลายองค์กรแห่คุมต้นทุน หันใช้บริการ Outsource สนั่น วางแผนปี 64 เร่งขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน แย้มเตรียมรุกกลุ่มแบงก์-ยานยนต์ คาดรายได้ทั้งปีดีกว่าปี 63 ที่แนวโน้มวิ่งเข้าเป้า 2,000 ล้าน 

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.สยามราชธานี หรือ SO ดำเนินธุรกิจ “จ้างเหมาบริการ (Outsourcing Services)” ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เน้นการบริหารจัดการด้านบุคลากร ยานพาหนะ มั่นใจโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งอานิสงส์เชิงบวกให้บริษัท โดยนายเวทย์ นุชเจริญ ประธานกรรมการ SO เปิดเผยว่า ในปี 2564 นี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าภาคเอกชนมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนฐานลูกค้าภาครัฐราว 60-70% และที่เหลือเป็นงานภาคเอกชน

ปักธงขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน

โดยบริษัทมองเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดภาคเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง จากปี 2563 ที่เกิดการระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีหลายบริษัทหันมาคุมต้นทุนโดยเฉพาะต้นทุนด้านบุคคลากร และมาถึงปี64 นี้ที่เกิดการระบาดรอบใหม่ที่รุนแรงกว่าเดิม ทำให้เชื่อมั่นว่าจะมีลูกค้าใหม่ที่สนใจหันมาใช้บริการ Outsource เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมแผนจะขยายฐานลูกค้าภาคเอกชนมาตั้งแต่ปี 63 และได้มีการนำเสนอและเจรจากับหลากหลายบริษัทในหลายธุรกิจ ซึ่งในปี 2564 นี้ คาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติมโดยเป็นลูกค้าที่อยู่ในธุรกิจธนาคาร และธุรกิจยานยนต์ ที่ต่างเร่งปรับตัวหันมาลดต้นทุนกันอย่างหนัก ทำให้เชื่อว่าในปี 2564 จะเป็นอีกปีที่บริษัทเติบโตได้ดี

“บริษัทคาดในส่วนของรายได้ปี64 จะดีกว่าปี 2563 ที่มีแนวโน้มแตะระดับ 2,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนเป้าหมายรายได้ของปี 64 ยังต้องรอการสรุปจากการประชุมบอร์ด ที่วางไว้วันที่ 9 มกราคม นี้”

แววกำไรเร่งตัวแรง-เป้า16.10บ.

ด้านแหล่งข่าววงการวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า SO มีการให้บริการให้กับองค์กรต่างๆ มากมาย เช่น พนักงานขับรถ แม่บ้าน รปภ. พนักงานสำนักงาน แมสเซ็นเจอร์ หรือบริการเช่ารถพร้อมคนขับ เป็นต้น และในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักนี้ ทำให้บริษัทต่างๆ ลดภาระด้านบุคลากรลงอย่างมาก และหันไปจ้างบริษัทภายนอกแทน ซึ่งนั่นคืองานของ SO

โดยในปี 64 นี้ งานจะไหลเข้าอย่างมาก คาดจะหนุนกำไรของบริษัทให้เติบโตราว 40-50% หรือราว 200 ล้านบาท จากปี 2563 ที่คาดว่ากำไรจะทำ new high แตะระดับ 150 ล้านบาท และหากประเมินจาก P/E ที่ 25 เท่า ราคาเหมาะสม SO ควรจะอยู่ที่ 16.10 บาท

www.mitihoon.com