AEC กางแผนปี64 รุกขยายธุรกิจที่ปรึกษาฯ ปรับโครงสร้างหนี้ ดึง “ไพสิฐ แก่นจันทน์” รักษาการ CEO

76

นายประพล มิลินทจินดา ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 จะมุ่งขยายธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักในปัจจุบัน โดยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมนำระบบเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ผ่านออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และทันสมัย

ขณะเดียวกันจะรุกขยายธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน หรือวาณิชธนกิจ โดยเน้นการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้า รวมทั้งยังมองหาโอกาสในการลงทุนธุรกิจอื่น ๆเพิ่มเติม เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง

“ในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าลงทุนในระบบการเทรดใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเทรดผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ขณะที่ธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน จะเน้นในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้า ซึ่งบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแผนการปรับโครงสร้างกิจการเป็น Holding Company ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้ พร้อมกันนี้ ล่าสุดได้ดึงนักบริหารมืออาชีพที่มีความสามารถอย่าง นายไพสิฐ แก่นจันทน์ เข้ามาช่วยบริหารงาน ในตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และมีความสามารถ ซึ่งน่าจะเป็นกำลังสำคัญช่วยผลักดันให้ AEC เติบโตโดดเด่น” นายประพลกล่าว

ด้านนายไพสิฐ แก่นจันทน์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC กล่าวว่า การเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้เชื่อว่า บริษัทฯ มีศักยภาพการเติบโต ทั้งด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจวาณิชธนกิจ โดยเฉพาะบริษัทฯ มีทีมงานที่มีจุดแข็งในการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้ารายใหญ่หลายราย และธุรกิจดังกล่าว ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต

“การบริหารงานจะเป็นไปตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ที่จะสร้างการเติบโตด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งการที่ AEC เป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความคล่องตัวสูง และมีทีมงานที่มีประสบการณ์ คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้า รวมถึงผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี” นายไพสิฐกล่าวในที่สุด