เหลือบไปเห็นข่าว/แถลงการณ์ ของบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของธุรกิจโมเดิร์นเทรด 7-11 ที่มีสาขากระจายมากที่สุดในเมืองไทย ออกมาชี้แจง กรณีโลกโซเชียล พากันแชร์ข้อมูลร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในเมืองไทย ขายหน้ากากอนามัยแพงเกินกว่าราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท โดยขายแพค 5 ชิ้น 33 บาท หรือตกอันละ 6 บาทเศษนั้น
โดยบริษัทฯระบุว่า…
1. การจำหน่ายหน้ากากอนามัยนั้น หากเป็นการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศ ให้จำหน่ายในราคาขายปลีกไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท (รวม VAT) ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2563 และ ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 27 พ.ศ. 2563
2. สินค้าดังกล่าวนั้น ซัพพลายเออร์รายหนึ่งเป็นผู้นำมาจำหน่ายในช่องทางการจำหน่ายของบริษัท ซึ่งบริษัทมีขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานก่อนมีการนำมาวางจำหน่าย โดยสินค้าดังกล่าวนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้มีหนังสือแจ้งว่า ไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ โดยมีวัตถุประสงค์การใช้งานสำหรับป้องกันฝุ่นละออง หมอกควัน และเกสร จึงไม่ใช่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) แต่อย่างใด
การจำหน่ายหน้ากากอนามัยดังกล่าว จึงไม่ใช่การจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ต้องจำหน่ายในราคาไม่เกิน 2.50 บาท (รวม VAT) แต่อย่างใด
“บริษัทขอเรียนว่า ได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ก็คำนึงถึงการให้บริการแก่ชุมชนและสังคม โดยเฉพาะในภาวะการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้สามารถจัดหาหน้ากากอนามัยไว้ใช้ป้องกันตนเองได้อย่างทั่วถึง และขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ซึ่งล้วนมีความสำคัญ และเป็นส่วนผลักดันให้บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการภายในร้าน เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้า โดยคำนึงถึงความถูกต้องตามข้อกำหนดของภาครัฐอย่างเคร่งครัดต่อไป”
อ่านแล้ว ก็ให้นึกชื่นชมที่ผู้บริหาร 7-11 ยังมีสำนึกที่ดีต่อการดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งแต่จะฉวยโอกาส ฟันกำไรเข้าพกเข้าห่อในช่วงที่ถนนทุกสายกำลังหวาดผวากับวิกฤตไวรัสสูบนรก covid 19 ระรอกใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในเวลานี้
แต่คำถามก็คือแล้ว ประชาชนจะรู้ได้อย่างไรว่า หน้ากากอนามัยที่วางขายในร้านสะดวกซื้อนั้น มันแตกต่างไปจากหน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลเขาควบคุมราคาขายอยู่ เพราะมันเหมือนกันเด๊ะทุกกระเบียดนิ้ว แถมไม่ใช่หน้ากากแฟชั่นด้วย
แล้วทำไม 7-11 ถึงไปรับมาขาย ทั้งที่ปากก็บอกบริษัทยึดมั่นทำตามกฎหมาย เหตุใดไม่รับหน้ากากจากโรงงานผลิต ในประเทศมาขายในราคาควบคุม เพราะตัวเองมีสาขามากที่สุดในประเทศ สามารถจะเป็นแขนขา เครือข่ายกระจายหน้ากากเพื่อประชาชนได้ดีที่สุดอยู่แล้ว
จึงไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วเซเว่นฯ คิดอะไรอยู่ แต่ก็อยากฝากเตือนด้วยความเคารพรักด้วยความปรารถนาดีตรงนี้ว่า ถ้าจะให้ได้ใจประชาชนจริงๆ ก็ เลิกขายหน้ากากอนามัยที่เลียนแบบ surgical mask ที่ว่านี้ไปซะเถอะ ไปเอาหน้ากากอนามัยที่ผลิตขึ้นจากโรงงานในประเทศ มาวางขายกระจายให้ประชาชนคนไทยในยามนี้จะดีที่สุด ทำอย่างนี้จึงน่าจะได้รับเสียงขื่นชมมากกว่าไหม
ดีกว่าจะออกแถลงการณ์แล้วยังคงตั้งหน้าตั้งตาขายแบบนี้ต่อไป นี่เตือนด้วยความรักและปรารถนาดีขึ้นจริงๆ นะ!
ที่มา: http://www.natethip.com/news.php?id=3506
โดยเนตรทิพย์กระพริบข่าวร้อน
www.mitihoon.com