KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยไซด์เวย์ ชี้เป้า MAKRO-SPRC-JMT เด็ด!

107

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในรายงานมุมมอง SET Index วันนี้ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินดัชนียังไซด์เวย์ หลังจากเมื่อวาน (13/01/64) ดัชนีฯ บวกในกรอบที่จำกัด หนุนโดยหุ้นพลังงานและปิโตรฯที่ยังคงเด่น (ตามคาด)… ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยตลาดหุ้นทั้งนอกและในประเทศเป็นกลาง นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะรอดูข่าวสำคัญในคืนนี้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นไทยน่าจะทรงตัว

เชิงเทคนิค : วันนี้หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1,550 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1,550-1,566 จุด แต่หากวันนี้ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1,542 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1,542-1,498 จุด

ปัจจัยต่างประเทศ – เป็นกลาง : ปธน. โจ ไบเดน ประกาศว่าในคืนวันนี้ตามเวลาบ้านเรา จะมีการแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะมีมูลค่า 1.2-1.3 ล้านล้านดอลล่าร์ฯ ซึ่งมองว่ารายละเอียดของมาตรการฯ จะมีนัยต่อค่าเงินดอลล่าร์ฯ และบอนด์ยิลด์ของสหรัฐฯ ในช่วงนี้ ด้านตลาดน้ำมันปรับฐานเล็กน้อยหลังแรลลี่ขึ้นมาแรง แม้ว่า EIA สหรัฐฯ จะรายงานสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล (consensus คาดลด 2.3 ล้านบาร์เรล)… ส่วนประเด็นการเมืองสหรัฐฯ นั้น สภาผู้แทนสหรัฐฯ ได้ลงมติถอดถอน ปธน. ทรัมป์แล้ว ขั้นถัดไปต้องรอการตัดสินใจของวุฒิสภาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตามกฎหมายของสหรัฐฯ ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของวุฒิสภาเพื่อถอดถอน ปธน.

ปัจจัยในประเทศ – เป็นกลาง : สถานการณ์ติดเชื้อ COVID-19 ภายในประเทศดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อวานนี้ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศอยู่ที่ 120 คน ชะลอลงจากช่วงหลายวันก่อนหน้านี้ และเพิ่มความคาดหวังว่าจะไม่มีการติดเชื้อพุ่งขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564… ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นของวัคซีน COVID-19 ซึ่งล่าสุดผลการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีน Sinovac ของจีนผลออกมาไม่ดีนัก ส่งผลให้มาเลเซียและสิงคโปร์ชะลอการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวออกไปก่อน

หุ้นแนะนำ
– MAKRO (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 39.5 บาท / แนวต้าน 41.5 บาท หาก Breakout ผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 44 บาท (Stop loss 38.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มราคาสินค้าอาหารสดปรับขึ้น (ราคาหมู + ไก่ เริ่มฟื้นตัว เป็นผลจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เช่น ต้นทุนลูกหมู+ลูกไก่ และต้นทุนอาหารสัตว์) เป็นบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้น 3) ประเมิน MAKRO รับ Sentiment บวกจากมาตรการภาครัฐฯ เนื่องจากเน้นขายสินค้าประเภทขายส่ง 4) PE ปี 2564 = 28.5 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 30.5 เท่า

-SPRC* (เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.9 บาท / แนวต้าน 9.25 – 9.75 บาท (Stop loss 8.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นฟื้นตัวต่อเนื่องใน 1H64 จากดีมานด์พลังงานที่คาดฟื้นตัว ตามความคาดหวังเรื่องวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะดีมานด์น้ำมันอากาศยาน และการขนส่ง 3) ฝั่งอุปทาน ไม่มีกำลังการผลิตใหม่ในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ 4) PBV 1.46 เท่า ยังใกล้เคียง ค่าเฉลี่ยในอดีตราว 1.4 เท่า ขณะที่ผลการดำเนินงานปีนี้คาดจะ Turnaround เป็นกำไรราว 3.7 พันล้านบาท ROAE กลับมาบวกที่ 13.8% … ด้วยธีมการลงทุนเดียวกันนักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร ESSO* แนวรับ 8.5 บาท / แนวต้าน 9.1 บาท และถัดไป 9.7 บาท (Stop loss 8 บาท)

-JMT* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35.5 บาท / แนวต้าน 38 – 39 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินแนวต้านถัดไป 41 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q63 และมีโอกาสที่ Consensus จะปรับประมาณการฯทั้งปีขึ้น ทั้งนี้กำไร 9M63 คิดเป็น 84% ของประมาณการฯทั้งปีของฝ่ายวิจัยฯแล้ว 3) ประเมินธุรกิจบริหารหนี้เสียกำลังเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นต่อ (สะสมพอร์ตหนี้เสียในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และทยอยรับรู้รายได้เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว + รับ Sentiment บวกโอกาสลดดอกเบี้ยนโยบาย) 4) PE ปี 2564 = 30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 36 เท่า และคาดมีโอกาสปรับประมาณการฯขึ้น (PE มีโอกาสต่ำกว่า 30 เท่า หลังปรับประมาณการฯ)