ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) โดย นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล/ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ กรรมการอำนวยการ เปิดเผยว่า มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานเฉพาะกิจการในปี 63 จำนวน 5,063.30 ลบ. ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้เงินปันผล แต่เนื่องจาก ประกอบ ธุรกิจการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และไม่มีการประกอบธุรกิจหลักอื่นใด ดังนั้น ผลการดำเนินงานและฐานะ การเงินที่ใช้ในการวิเคราะห์ จึงเป็นงบการเงินรวมของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจหลัก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจธนาคาร พาณิชย์และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์
สำหรับผลประกอบการของบริษัทงวดปี 63 กำไรสุทธิในส่วนของบริษัท ลดลงจำนวน 1,206.75 ลบ. หรือร้อย ละ 16.6จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่6,063.48 ล้านบาท ตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19ซึ่งส่งผลกระทบต่อการชะลอตัว ของเศรษฐกิจ กดดันรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคาร รวมถึงภาระการตั้งค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่สูงขึ้นเพื่อสะท้อน สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน
สำหรับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 จากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพในภาวะ ดอกเบี้ยขาลง ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ12.6 โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทั้งธุรกิจ นายหน้าประกันภัย และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ จากการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดลง อย่างไรก็ดีรายได้ ค่าธรรมเนียมของธุรกิจตลาดทุนปรับตัวดีขึ้นร้อยละ12.8 ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และการออกกองทุนใหม่ที่ ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในภาวะที่ตลาดทุนผันผวน
ส่วนด้านค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง สอดคล้องกับรายได้ ที่ชะลอตัว ในส่วนของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ร้อยละ 1.42 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน บริษัทยังคงติดตามและดูแลลูกหนี้ทุก กลุ่มอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก สิ้นปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ร้อยละ 2.50 ณ สิ้นปี 2563
บริษัทมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic earnings per share) สำหรับปี 63 เท่ากับ 7.57 บาทต่อหุ้น ลดลงจาก 9.08 บาทต่อหุ้นในปี2562โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ของปี 2563อยู่ที่ร้อยละ 15.4
อย่างไรก้ตามผลประกอบการที่ออกมาของ TISCO ดีกว่าโบรกคาด โดยพบว่า บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินกำไร TISCO ปี 63 ที่ 5,932 ลบ. พร้อมประเมินปี 64 จะมีกำไรที่ฟื้นตัวขึ้นไปอยู่ที่ 6,575 ลบ. เพิ่มขึ้น 11 % จากปีก่อนตามภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ขณะ บล.บัวหลวงให้ราคาเป้าหมายสูงสุด ที่ 99 บ./หุ้น
www.mitihoon.com
