GBS มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,500 – 1,550 จุด   แนะช้อน EA-GPSC-BCPG-BGRIM-RATCH-BBL-TISCO เข้าพอร์ต

182

มิติหุ้น – บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ส่อแววเคลื่อนไหวในกรอบดัชนี 1,500 -1,550 จุด ชี้ปัจจัยการลงทุนยังคงผันผวนมีทั้งข่าวดี – ร้าย เป็นตัวแปรการลงทุน แนะนำทยอยเก็บหุ้นกลุ่ม GREEN ENERGY อาทิ  EA, GPSC, BCPG, BGRIM และ RATCH รับ อานิสงส์นโยบายโครงการสีเขียวของโจ ไบเดน ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร อย่าง BBL ,TISCO น่าจับตา

 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1,500 -1,550 จุด โดยยังคงให้น้ำหนักเชิงบวกต่อกรณีที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สหรัฐ ปี 64 หลังประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “American Rescue Plan” วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังซาอุดิอาระเบีย ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในเดือน ก.พ. และ มี.ค. 64 เพื่อรักษาระดับของปริมาณน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับสมดุล รวมถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีความคืบหน้าของการส่งมอบและดำเนินการฉีดให้กับประชาชนในหลายประเทศแล้ว

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นตัวแปรในการฉุดตลาด ฝ่ายวิจัยมองว่า ยังคงเป็นสถานการณ์โควิด-19           ที่จนปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทะลุ 90 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1.9 ล้านราย ส่งผลให้หลายประเทศทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย ประกาศมาตรการเข้มงวดระยะห่างทางสังคมเพิ่มเติม ขณะที่ ประเทศไทย ก็ยังมีการตรวจพบการแพร่ระบาด เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  นอกจากนี้ แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่เพิ่งประกาศใช้ คาดว่าสหรัฐอาจมีการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคล

 ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังทบทวน GDP ใหม่ ปี64 ลดลงจากเดิม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ระบาดเป็นวงกว้างและเร็วกว่าการระบาดรอบแรก แม้ผลกระทบไม่รุนแรงเท่าการแพร่ระบาดรอบแรกแต่ก็ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูง  ส่วนทางด้านการรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารปี 63 ที่ทยอยแจ้งงบภายใน 21 ม.ค.นี้ มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปี 62 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น แต่ด้วยฐานะเงินกองทุนที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้ธปท.ยอมให้จ่ายเงินปันผลประจำปี และมองว่าช่วงนี้อาจมีแรงขายจากสถาบันในประเทศ เพื่อนำเงินบางส่วนไปจองซื้อหุ้น OR ในช่วงปลายเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย ยังแนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยลงทุนหุ้นกลุ่ม GREEN ENERGY ได้รับอานิสงส์จากนโยบายโครงการสีเขียว (Green Recovery)ของนายโจ ไบเดน  ได้แก่ : EA,GPSC,BCPG,BGRIM และ RATCH พร้อมกันนี้ยังแนะลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้แก่ : BBL เนื่องจากซื้อขายที่ PBV  0.5 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เท่ากับ 0.7 เท่า และเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตได้ดีเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่วนTISCO มองว่ายังมี yield อยู่ในระดับสูงราว 5-6%

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก มองภาพรวมของการลงทุนในทองคำว่า ทองคำมีโอกาสรีบาวด์ แต่ทั้งนี้หากไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,875 -1,890 $/Oz ให้ระวังแรงขาย เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ยังทรงตัวใกล้ระดับ 1% เป็นปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ตามกรณีที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่เฟดยังคงเดินหน้าเพิ่มขนาดงบดุล ยังเป็นปัจจัยช่วยพยุงราคาทองคำ ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยประเมินแนวรับที่ 1,820-1,830 $/Oz

www.mitihoon.com