ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนาคารกสิกรไทย โดยนายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4 ปี2563จำนวน 13,258 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 6,579ล้านบาท หรือ98.52% และกำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับปี 2563 จำนวน 29,487ล้านบาทลดลงจำนวน 9,240ล้านบาท หรือ23.86% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 26,603 ล้านบาท ลดลงจำนวน 652 ล้านบาท หรือ 2.39% จากไตรมาสก่อนส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากเงินรับฝาก และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 12,308ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนจำนวน 2,809 ล้านบาท หรือ 29.58% ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับมูลค่ายุติรรม (Mark to market)ของเงินลงทุน ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด
สำหรับปี 2563 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 109,022 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,334 ล้านบาท หรือ 6.17% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยรับ และค่าใชจ้่ายดอกเบี้ย และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปี 63 อยู่ที่จำนวน 45,869ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 11,934 ล้านบาท หรือ 20.65% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ลดลงและค่าธรรมเนียมรับเกี่ยวกบัการให้สินเชื่อลดลงจากการเปลี่ยนไปแสดงเป็นรายไดด้อกเบ้ีย
ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 63 ที่ 29,487.12 ลบ. ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 38,726.74 ลบ. สาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 ซึ่งสะท้อนการตั้งสำรองที่สูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและโอกาสที่คุณภาพสินเชื่อของลูกค้าที่จะแย่ลงจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของดควิด-19 แต่ดีกว่าโบรกคาดเคาะเป้าสูงสุด 126 บ./หุ้น พร้อมคาดปี 64กำไรฟื้นแรง แตะ 3.2 หมื่นลบ.เพิ่มขึ้น 44.8 %
www.mitihoon.com
