มิติหุ้น-บล.ธนขาต ระบุว่า จากกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมปรับเกณฑ์ในการคำนวนดัชนี โดยใช้ Free Float มาร่วมในการคำนวนดัชนีด้วย จากเดิมที่ใช้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือที่เรียกกันว่า Market Capitalization (Market Cap.) ซึ่งจะทำให้หุ้นที่มีขนาดใหญ่ และจริงๆ แล้วมีสภาพคล่องไม่ได้มากนัก มีผลต่อการเคลื่อนไหวของ SET Index ลดลง เช่น ปัจจุบัน AOT มี Market Cap เท่ากับ 8.7 แสนล้านบาท หรือมีน้ำหนักประมาณ 7.6% ใน SET50 แต่เนื่องจาก AOT มี Free Float ต่ำเพียง 30% เท่านั้น ทำให้เมื่อรวม Free Float ในการคำนวณจะทำให้มี Adjusted Market Cap เหลือ 8.7 แสนล้าน x 30% หรือเท่ากับประมาฯ 2.6 แสนล้านบาท เท่านั้น และจะมีนำหนักต่อ SET ลดลงเหลือ 5%
ดังนั้นถ้าตลาดหลักทรัพย์ มีการนำ Free Float มาใช้คำนวณ ดัชนี SET หรือ SET50 จะทำให้มีผล 3 อยู่ 3 เรื่องที่นักลงทุนควรจะต้องรู้ ซึ่งในวิเคราะห์นี้ ขอยกตัวอย่าง SET50 เป็นหลัก เพราะจะมีผลต่อกลุ่มกองทุน Passive Fund ที่อาจต้องมีการปรับพอร์ต ตามกันมา
1.การเคลื่อนไหวของหุ้นแต่ละตัว จะมีผลต่อ SET50 เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งกลุ่มหุ้นที่จะมี Adjusted Market Cap เพิ่มขึ้น และการเคลื่อนไหวของกลุ่มหุ้นเหล่านี้จะส่งผลต่อ SET50 มากขึ้นได้แก่ BBL, SCB, SCC, KBANK, และ CRC ขณะที่กลุ่มหุ้นที่จะมี Adjusted Market Cap ลดลง ได้แก่ DELTA, AOT, GULF, ADVANC และ GPSC
2.การปรับพอร์ตของกองทุนประเทศ Passive Fund เช่นกองทุนที่มีการลงทุนอิงดัชนี SET50 จะต้องมีการปรับพอร์ต ตามมา โดยหุ้นที่ถูกปรับ Adjusted Market Cap เพิ่มขึ้น ก็จะถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน ขณะที่หุ้นที่ถูกปรับ Adjusted Market Cap ลดลง ก็ต้องถูกลดน้ำหนักลงมาเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าคิดจากขนาดกองทุน Passive Fund ที่มีการลงทุนใน SET50 ปัจจุบัน ประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท มองว่าจะส่งผลต่อราคาหุ้น ที่ 1) มีการปรับน้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้น และ 2) มูลค่าการซื้อขายต่อวัน ไม่มากนัก โดยหุ้นที่คาดว่าจะมีผลกระทบ “เชิงบวก” มากที่สุด ได้แก่ CRC, BBL, INTUCH, BDMS, SCC, SCB, CPN ขณะที่หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ “เชิงลบ” มากที่สุด ได้แก่ TOA, AOT, TTW, GULF, GLOBAL
3. การนำหุ้นเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ซึ่งอาจทำให้หน้าหุ้นที่จะถูกนำมาคำนวณในดัชนี SET50 รอบหน้า ตั้งแต่ ก.ค.2021 เปลี่ยนแปลงไป โดยหุ้นที่เดิมไม่ได้ถูกคำนวณใน SET50 แต่จะมี Adjusted Market Cap เพิ่มขึ้น และมีโอกาสถูกนำมาคำนวณดัชนี SET50 รอบหน้า ได้แก่ BANPU, KKP, IRPC และ KCE ขณะที่กลุ่มหุ้นที่มีโอกาสถูกนำออกจากดัชนี SET50 รอบหน้า ได้แก่ VGI, TOA, TTW และ DTAC
อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ ยังอยู่ในช่วงศึกษาเท่านั้น ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะใช้จริง
www.mitihoon.com