ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ธนพิริยะ หรือ TNP ทำธุรกิจค้าปลีก-ส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” โดย “บล.โกลเบล็ก” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 คาดกำไรสุทธิจะทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ 33 ล้านบาท หรือเติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 10% จากไตรมาสก่อน
ขานรับมาตรการรัฐ
เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายสาขาค้าปลีกเพิ่มอีก 2 สาขา เป็น 32 สาขา ,ได้อานิสงส์ทางตรงจากการปรับเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการฯ อีก 500 บาท,ได้อานิสงส์ทางอ้อมจากมาตรการ “คนละครึ่ง” และการเข้าสู่ช่วง High Season ของปี ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG)ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3-4% จากไตรมาส 3/63ที่ทรงตัว
ดังนั้นทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิสถิติสูงสุดใหม่(นิวไฮ)ที่ 123 ล้านบาท เติบโต 39%จากปีก่อน ส่วนปี 64 คาดทั้งกำไรและรายได้จะเติบโต 10-15% จากการขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึง แนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมปี 64 เพิ่มขึ้นเป็น 4.30 บาท จากเดิม 3.80 บาท
“บล.เคทีบี(ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกหุ้น TNP โดยทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 127 ล้านบาท เติบโต 43% จากปีก่อน จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ และรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาเป็น 32 สาขา จากเดิมปี62ที่ 27 สาขา ส่วนปี 64 คาดกำไรนิวไฮต่อเนื่องที่ 146 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 4.30 บาท
ลุยขยายสาขาทำเงิน
ด้าน “เภสัชกรหญิงอมร พุฒิพิริยะ” รองกรรมการผู้จัดการ TNP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 มีลุ้นทำสถิติสูงสุดแห่งปี เพราะจะได้รับอานิสงส์ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น โดยโครงการดังกล่าวจะส่งผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อม
พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมหาสินค้าใหม่เข้ามาจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสินค้ามาร์จิ้นสูง ดังนั้นทั้งปี 63 มั่นใจรายได้รวมจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% จากปีก่อน พร้อมรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดีต่อเนื่อง ล่าสุดสิ้นปี 63 มีสาขารวมทั้งสิ้น 32 สาขา จากปี 62 ที่มีสาขาเพียง 27 สาขาเท่านั้น
www.mitihoon.com
