มิติหุ้น – BGC ได้เวลาฟื้นตัว ดีมานด์บรรจุภัณฑ์แก้วกลับมาหนาแน่น กูรูฟันธงยอดขายขวดแก้วกลุ่มเบียร์โตสนั่น อัพกำไรไตรมาส4/63 พีคแรง เชื่อยังมีลุ้นเดินหน้าดีลซื้อกิจการในระยะถัดไป เชียร์ “ซื้อ” เคาะราคาเป้าหมาย 14.70 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยนายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุก่อนหน้านี้ว่า จากการประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วในประเทศและภูมิภาคอาเซียนในปี 2564 คาดว่าจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคกลับมาเติบโตได้ดี และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์แก้วที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
กูรูฟันธงQ4/63เก็บกำไร200ล.
ด้าน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยมองแนวโน้มการฟื้นตัวของยอดขายขวดแก้วที่ปรับดีขึ้น จะส่งผลดีต่อสต็อกคงค้างที่มีแนวโน้มลดลง ปัจจุบันอยู่ที่ 120,000 ตัน (ปกติอยู่ที่ 80,000-90,000 ตัน) และในไตรมาส 4/63 คาดจะเห็นกำไรแตะ 200 ล้านบาท เติบโตขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สอดคล้องกับสมาคมค้าปลีกและสมาคมค้าส่งค้าปลีกไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ว่า ยอดคำสั่งซื้อดีขึ้น ปัจจัยสนับสนุนให้การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดีขึ้น และตัวเลขกลับเป็นบวก 20-30% ทั้งในกลุ่มเบียร์และสุรากลั่น
จับตาดีลซื้อกิจการบริษัทบรรจุภัณฑ์
ผู้บริหารขอทบทวนดีลเข้าซื้อกิจการอีกครั้ง แต่ยันไม่เลิกซื้อกิจการ หลังจากบริษัทแจ้งยกเลิกการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (AGM) ครั้งที่ 1 ในวันที่ 15 ธ.ค.20 เพื่อพิจารณาการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท บางกอกบรรจุภัณฑ์ จำกัด (BVP), บริษัท บีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (BGP) และบริษัท กบินทร์บุรีกล๊าส อินดัสทรี จำกัด (KBI) จากบมจ.บางกอกกล๊าส (BG) รวมทั้งการเพิ่มทุนจดทะเบียน
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน คาดว่าหากมีความพร้อมก็จะนำเสนอต่อ AGM เพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป โดยยืนยันว่ายังมีความสนใจในการเข้าซื้อบริษัทบรรจุภัณฑ์อยู่ เพราะในระยะยาวยังต้องการเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ แม้ขณะนี้จะมีธุรกิจพลังงานเข้ามาเสริม แต่สัดส่วนรายได้ในอนาคตยังมาจากบรรจุภัณฑ์ราว 90%
ยอดขายขวดแก้วโตสนั่น-เป้า14.70บ.
ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายที่ 14.70 บาท หลังจากกำไรสุทธิไตรมาส3/63 ออกมาดีกว่าคาดที่ 156 ล้านบาท (+94% YoY) ปัจจัยหลักมาจากยอดขายขวดแก้วกลุ่มเบียร์ภายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึง gross profit margin ที่ปรับตัวดีขึ้น +481 bps (YoY) อยู่ที่ 19.7% และคาดว่าบริษัทจะเข้าซื้อเฉพาะกิจการที่มีกำไรและไม่เพิ่ม โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที่ 672 ล้านบาท (+31% YoY) และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูงในระดับ 5-6%
www.mitihoon.com