ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KOOL จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความเย็น ได้แก่ พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า “MASTERKOOL” และ “CoolTop” โดย “นายนพชัย วีระมาน” ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน
รุกโมเดลเช่าซื้อ
โดยบริษัทได้ “ปรับโมเดลธุรกิจใหม่” เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยการให้บริการ “เช่าซื้อ” แก่ “กลุ่มลูกค้าองค์กร” ล่าสุดกระแสตอบรับดีมาก ซึ่งมีกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม,โรงพยาบาล, และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เข้ามาเจรจาขอ“เช่าซื้อ”มากขึ้น ซึ่งธุรกิจนี้ให้มาร์จิ้นสูงจึงทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring income)เป็น 50% ของรายได้รวม ในระยะถัดไป จากปัจจุบันไม่มีสัดส่วรายได้จากส่วนนี้
เครื่องฆ่าโควิด-PM2.5ขายดี
ส่วน “ตลาดส่งออก” เติบโตโดดเด่นมากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 63 เติบโตถึง 87% และในปี 64 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อรองรับสถานการณ์ PM2.5 และ Covid-19 อาทิ การกำจัดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยเครื่องผลิตก๊าซโอโซน, เครื่องฟอกอากาศด้วย UV เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้มีออเดอร์เริ่มไหลเข้ามามากขึ้น รวมถึงบริษัทได้เจรจาเพิ่มเอเย่นต์ในประเทศที่มีการเติบโตสูง ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้ากว่า 34 ประเทศทั่วโลก
รวมถึงบริษัทได้เน้นการตลาดผ่านช่องทาง “ออนไลน์” ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจำหน่ายสินค้าผ่าน TV Shopping, Web Shopping รวมถึงได้จัดโปรโมชั่นร่วมกับช่องทางเว็บช้อปปิ้งหลัก เช่น Lazada, Shopee, JD Central เป็นต้น เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ระวังจะแรงเหมือนTSR
นักวิเคราห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า การที่ KOOL ได้ปรับโมเดลธุรกิจเป็นแบบเช่าซื้อ และยังได้ร่วมทุนกับ “กลุ่มบ.แคปปิตอล ลิ้งค์” ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจในส่วนของการให้สินเชื่อเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ KOOL มีธุรกิจที่หลากหลายและมั่งคงมากขึ้น คาดปี 64 กำไร-รายได้จะเติบโตก้าวกระโดด ซึ่งธุรกิจ KOOL และคล้ายกับ TSR ดังนั้นราคา KOOL มีโอกาสปรับตึวเพิ่มขึ้นได้ แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 1.20 บาท
www.mitihoon.com
