ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น หรือ TCMC โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 64 จะเข้าสู่ช่วง “เทิร์นอะราวด์” อย่างชัดเจน คาดกำไรสุทธิจะเติบโตไม่น้อยกว่า 50% จากปีก่อน และกลับมาจ่ายปันผลตามนโยบายไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ เนื่องจากในปี 64 บริษัทจะมีปริมาณคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) “ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” ล็อตใหญ่ๆ เข้ามามากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากช่วง Covid-19 ทำให้คนในประเทศสหรัฐฯ และอังกฤษหยุดอยู่บ้านทำให้ความต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งบ้านสูงขึ้น
ล่าสุดเมื่อไตรมาส 4/63 บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ “โรงผลิตเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก” ในประเทศอังกฤษ 1 แห่ง ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้มากขึ้น จากเดิมมีกำลังผลิตเพียง 850 เซตต่อสัปดาห์ (ไม่รวมการนำเข้ามาจำหน่าย) และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการ “โรงงานเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่” ในประเทศอังกฤษ เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อมารองรับปริมาณออเดอร์ที่จะเข้ามามากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทจะใช้กลยุทธ์ทำการตลาดเจาะกลุ่มรายย่อย และเน้นตลาดออเดอร์มากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดขายและรายได้เติบโต “หลายเท่าตัว” จากปีก่อน
ปิดดีลเทกฯรง.เฟอร์นิเจอร์
“นายพิมล ศรีวิกรม์” ประธานกรรมการ TCMC เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 64 บริษัทตั้งงบลงทุนราว 5-7 ล้านปอร์ด (กว่า 200 ล้านบาท) เพื่อเดินหน้าดีล M&A ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันมีเจรจาอยู่ 1 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1/64 นี้ โดยโรงงานนี้คาดจะสร้างรายได้เข้ามาไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี และผลักดันให้บริษัทขึ้นเป็น “ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ติดอันดับ 1-2 ในประเทศอังกฤษ” พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างแผนผลักดันบริษัทย่อย Alstons เข้าจดทะเบียนใน “ตลาดหุ้นดาวโจนส์” คาดเห็นความคืบหน้าในปี 64 และสามารถเข้าตลาดหุ้นดาวโจนส์ได้ภายในปี 65
งบQ4/63โต-ออเดอร์ล้นมือ
ส่วนแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/63 จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง (Q3/63 กำไรสุทธิทำนิวไฮ 83.25 ล้านบาท) เพราะทุกธุรกิจเริ่มกลับมาเติบโต โดยเฉพาะ “ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” คิดเป็นสัดส่วน 43.19% ของรายได้รวม มีออเดอร์เข้ามาสูงมาก ได้อานิสงส์จากโควิด-19 ที่คนหยุดอยู่บ้านและหาซื้อเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่งบ้านสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีกำลังผลิตเต็ม 100% และมีออเดอร์รอส่งมอบยาวไปจนถึงปลายไตรมาส 1/64 ดังนั้นบริษัทเตรียมขยายโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อรองรับออเดอร์ที่จะเข้ามามากขึ้น ส่วนธุรกิจอื่นๆ คาดจะค่อยๆ เติบโตตามลำดับ
www.mitihoon.com