ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT โดย “บล.กรุงศรี” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 คาดกำไรสุทธิที่ 7.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ย (ASP) 167% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 46% จากไตรมาสก่อน สู่ระดับ 1,700 บาทต่อพันชิ้น
ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น้อยกว่า ซึ่งได้แก่1.น้ำยางธรรมชาติ 41.83บาท/กก., เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 17% จากไตรมาสก่อน, 2.butadiene USD1,135 /ตัน, เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 86% จากไตรมาสก่อน , และ3.acrylonitrile USD1,202 /ตัน, ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาสก่อน ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรขั้นต้นไตรมาส 4/63 จะเพิ่มขึ้นสู่ 71% เทียบกับ 60% ในไตรมาส 3/63
พร้อมกันนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อ “ถุงมือยางธรรมชาติ”จนกระทั่งถึงไตรมาส 1/65 และถุงมือยางสังเคาระห์ (NBR) ถึงกลางปี 65 แต่ยังไม่ได้กำหนดราคาขายในช่วง เม.ย. ถึง ธ.ค. 64 ซึ่งเป็นความเสี่ยงด้านราคาขายในช่วงที่เหลือของปี 64
อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มกำไรปี 63-64 อีก 32% และ 162% สู่ 1.33 หมื่นล้านบาท และ 1.55 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ หลังปรับราคาขายเฉลี่ยขึ้นสู่ 990 บาท ต่อพันชิ้นและ 1,100 บาทต่อพันชิ้นจาก 925 บาท และ 825 บาท ทำให้สมมติฐานกำไรขั้นต้นปี 63 และ ปี64จะเพิ่มขึ้นสู่ 54% และ 55% จากเดิม 45% และ 30% ตามลำดับ จึงปรับคำแนะนำลงสู่ “ถือ” พร้อมเป้าหมายใหม่ 43.25 บาทต่อหุ้น (จาก 41.20บาท)
www.mitihoon.com
