มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการของ EKH ในไตรมาส 4/2563 จะแข็งแกร่งที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา โดยจะมีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท (-23.2% YoY,+41.1%QoQ) หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/2563 ถึงแม้ว่าโควิด-19 จะกลับมาระบาดที่จังหวัดสมุทรสาครเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 63 แต่ฝ่ายวิจัยพบว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ จะไม่ถูกกระทบในด้านลบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยคาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส4/63 จะยังคงแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังคาดว่า EKH จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ เพราะมีคนมาโรงพยาบาลมากขึ้น เพื่อตรวจหาเชื้อและรับการรักษาถึงประมาณ 300-400 รายต่อวัน ส่วนจำนวนผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 โดยคาดว่ารายได้ในไตรมาส4/2563 จะอยู่ที่ 213 ล้านบาท (-5.0% YoY,+38.8%QoQ) โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 28.0% ลดลงจาก 36.6% ในไตรมาส 4/2562 และ 29.2% ในไตรมาส3/63
ทั้งนี้แม้ว่าโควิด-19 จะระบาดที่สมุทรสาคร แต่คาดว่าโมเมนตั้มของ EKH ในปี 2564 จะเป็นบวกหากเทียบจากงวดเดียวกันปีก่อน (YoY) เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ชำระเงินสดจะเพิ่มขึ้น จำนวนผู้มาใช้บริการ IVF ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 และสามารถคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในไตรมาส2/2563
ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2563-2564 ขึ้นอีก โดยเพิ่มประมาณการรายได้ปี 2563-2564 ขึ้นจากประมาณการเดิมอีก 7.4% และ 4.7% ขณะที่ปรับลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายการบริหารต่อรายได้ (SG&A) ปี 2563 ลงเหลือ 21.8% (จากเดิม 22.0%) รวมทั้งปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 27.0% (จาก 26.0%) สำหรับปี 2563 แต่ปรับลดประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564 ลงเหลือ 36.2%(จากเดิม 37.0%) เพื่อสะท้อนถึงการที่มีจำนวนผู้มาใช้บริการ IVF ต่ำกว่าที่คาดไว้ และจำนวนผู้มาทดสอบหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
ดังนั้นจึง คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2563 จะอยู่ที่ 49 ล้านบาท (-69.6% YoY) และในปี 2564 จะอยู่ที่ 112 ล้านบาท (+129.6% YoY) ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ในปี 2563-2564 จะอยู่ที่ 666 ล้านบาท (-24.8% YoY) และ 779 ล้านบาท (+17.0% YoY) ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงโมเมนตั้มด้านบวกของการรักษาพยาบาลปกติและรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ปลายไตรมาส 4/2563 อีกทั้งยังคงประมาณการสัดส่วน SG&A/รายได้ที่ 2564 เอาไว้เท่าเดิมที่ 22% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีมาตั้งแต่ไตรมาส2/2563
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าของ EKH จากประมาณการใหม่ ยังคงแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ใหม่ปี 2564 ที่ 6.20 บาทต่อหุ้น (ใช้ WACC ที่ 9%,TG ที่ 3%) จากเดิมที่ 5.80 บาทต่อหุ้น
www.mitihoon.com
