ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60 บาท/หุ้นแม้ว่ารายได้ยังมีผลกระทบบ้างคาดลดลง 1% QoQ และ 1.6% YoY เป็น 11,074 ลบ. เพราะ QoQ มีค่า EP จาก EGAT ลดลงตามฤดูกาล ได้ IU ช่วยหนุนจากการฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดที่ 25.1% (New high) จาก 21.9% ในไตรมาส 3/63 และ 18.7% ในไตรมาส 4/62 จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงในไตรมาส 4/63 คาดที่ 219 บาท/ล้าน BTU (-6.8% QoQ, -17.6% YoY) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 525 ลบ. เพิ่มขึ้น 10.0% QoQ เป็นปกติที่ไตรมาส 4 จะสูงที่สุดของปี แต่คาดลดลง 20% YoY ส่วนค่าใช้จ่ายทางการเงินคาดที่ 980 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 33.9% YoY จากการเริ่มรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายโครงการ Solar เวียดนาม คาดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 150 ลบ. กำไรสุทธิคาดที่ 723 ลบ. กำไรปกติคาดที่ 573 ลบ. (-23.1% QoQ, +33.8% YoY)
JV กับ UV ไม่ด่วนแต่สำคัญ และโครงการอื่นๆอีกหลายร้อย MW
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. BGRIM ประกาศลงทุนในบริษัท UVBGP ในสัดส่วน 45% เพื่อลงทุนโครงการด้านพลังงานกับ บมจ. ยูนิเวนเจอร์ (UV) ซึ่งจะลงทุนทั้งโครงการพลังงานทดแทน และพลังงานหลัก ซึ่ง UV มีจุดแข็งเรื่องมีพื้นที่ของบริษัทในเครือที่มีอาคารสำนักงาน โรงแรม และที่อยู่อาศัยจำนวนมากที่สามารถติดตั้ง Solar roof ได้ทันที ขณะที่มองหาโอกาสในโครงการพลังงานหลักแบบ Green field อื่นเช่นกันซึ่งตั้งเป้ากำลังการผลิตที่ราว 300 -500 MW ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเราคาดว่าเป็นไปได้สูง และ BGRIM มักจะทำได้ดีกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็น Upside ที่เรายังไม่รวมไว้ในประมาณการ โดย BGRIM จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม นอกจากนี้ในปีนี้คาดว่าจะเห็นโครงการที่เจรจามาตั้งแต่ปี 2563 เริ่มมีความชัดเจนไม่น้อยกว่า 600 -700 MW อาทิ โครงการในเกาหลีใต้ 100- 200 MW โครงการในมาเลเซียไม่น้อยกว่า 200 MW และโครงการในประเทศที่เป็น M&A รับรู้กำไรได้ทันทีอีกราว 200- 300MW ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมในประมาณการ
ADB ขายหุ้นหมด ปลดล็อค ไม่แพง … ซื้อ
เรามองบวกต่อการขายหุ้นทั้งหมดที่ถือใน BGRIM ของ ADB เนื่องจากช่วยให้ตลาดคลายความกังวลในระยะยาวว่าจะมีการขาย Big lot ซึ่งจะกระทบ Sentiment ต่อราคาหุ้นได้ ขณะที่การลดสัดส่วนการถือหุ้นใน BGRIM ทำให้ ADB สามารถให้การสนับสนุนเงินลงทุนกับ BGRIM ได้มากขึ้นเนื่องจากจะไม่ติดเกณฑ์ Single lending limit แม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER64 ที่ 39.6 เท่า แต่ต่ำกว่าที่เคยขึ้นไปสูงถึง 50 เท่า แต่ยังมีปัจจัยที่ยังไม่รวมในประมาณการจำนวนมากตามที่กล่าวข้างต้น ซึ่งจะทำให้ PER ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงมองว่าราคาปัจจุบันเป็นโอกาสสะสม ส่วนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันคาดกระทบผลการดำเนินงานใน 3Q64 แต่ลดผลกระทบด้วยการนำเข้าเอง คงประมาณการกำไร 2564 ที่ 3,426 ลบ. (+23.1% YoY) คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 60 บาท
www.mitihoon.com