ตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า (15-19ก.พ.64) คาดจะมีแรงหนุนจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างประเทศที่ไหลกลับเข้ามา ประกอบกับนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่ารัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนปัจจัยในประเทศ คือ การยืนยันคำสั่งซื้อ “วัคซีน Covid-19” ของซิโนแวค 2 ล้านโดสตามข้อตกลง โดยจะเริ่มส่งล็อตแรกเข้ามาภายใน ก.พ.นี้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ รวมถึงนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด โดยใน “ระยะสั้นๆ” นักวิเคราะห์ต่างแนะนำให้เข้า “ซื้อสะสม” หุ้นพื้นฐานดีที่จะแจ้งผลประกอบการไตรมาส 4/63 เติบโตโดดเด่น
อย่างไรก็ดีวันนี้ “ทางมิตหุ้น” ได้รวบรวม “6 หุ้นนอกสายตา-ซุ่มทำดีลใหญ่” เผื่อไว้ให้นักลงทุนเลือกช็อปเข้าพอร์ต ซึ่งเป็น “หุ้นไซด์เล็ก-ราคาไม่แพง-พื้นฐานดี-ซุ่มทำดีลใหญ่” ส่อแววผลงานโตฉลุย อย่าง ECF, KK, KIAT,TMI, PJW,PIMO
ฝรั่งดอดถือหุ้น ECF
ECF หรือ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ปัจจุบันมีกระแสข่าวว่า คู่ค้ารายใหญ่จากต่างประเทศ เข้ามาเจรจาขอ “ซื้อหุ้น ECF” ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า ECF จะเปิดทางให้พันธมิตรรายนี้เข้ามาถือหุ้นด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจรวมกันในอนาคต คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 1/64 นี้
พื้นฐาน : แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/63 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เพราะ“ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์” มีออเดอร์เต็มปี 64 แล้ว เพราะได้ลูกค้าใหม่ในจีน สหรัฐฯ และอินเดีย ซึ่งอินเดียเป็นตลาดใหญ่ และกำลังมีการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมถึงรับรู้โรงไฟฟ้ามินบูเต็มไตรมาส รวมถึงจะมีกำไรพิเศษจากการขาย “เซฟ เอนเนอร์จี”เข้ามาอีกด้วย โดยปี 64 คาดกำไรสุทธิที่ 70-80 ล้านบาท เติบโต 40-50% จากปีก่อน และปี 65 จะเกิน 100 ล้านบาท เพราะ COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม
KKร่วมทุน-ซื้อกิจการ
KK บมจ.เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น ทำธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ ชื่อร้าน “เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์” หุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด mai มาไม่นาน ล่าสุดคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) เตรียมแผนทำดีลร่วมทุน หรือซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) เพื่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ หวังผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่งคง คาดน่าจะเห็นความชัดเจนอีกไม่นานเกินรอ
พื้นฐาน : ผลงานไตรมาส 4/63 จะเติบโตโดดเด่น เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ แถมยังได้รับอานิสงส์จาก “โครงการคนละครึ่ง” ซึ่งทำให้ประชาชนเข้ามาซื้อสินค้าที่ร้าน “เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์” เพื่อนำไปจำหน่ายต่อมากขึ้น ซึ่งสินค้าที่ KK จำหน่ายเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคทำให้เห็นการเติบโตในระยะยาว ทั้งปี 63 มั่นใจรายได้โตไม่ต่ำกว่า15% หรือแตะ 1.08 พันล้านบาท ส่วนในปี 64 ตั้งเป้ารายได้รวมที่ 1.2 พันล้านบาท จากการเพิ่มสาขาใหม่ 3 แห่ง จากปัจจุบันมี 28 สาขา
KIATซุ่มทำดีลดีรีเจ้นท์
KIAT บมจ.เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ผู้นำด้านการให้บริการขนส่ง หุ้นตัวนี้ไม่ธรรมดาคร่ำหวอดในวงการโลจิสติกส์มากนานกว่า 27 ปี ล่าสุด “วงใน” เผยอยู่ระหว่างทำดีล M&A ธุรกิจโลจิสติกส์ 2-3 ดีล หวังขยายเครือข่าย ล่าสุดได้เข้า“ทำดีลดีรีเจ้นท์”แล้ว ซึ่ง KIATมีฐานเงินทุนสูง 500 ล้านบาท พร้อมลุยลงทุน คาดจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/64 นี้ หากปิดดีลสำเร็จจะดันกำไร-รายได้โตกระโดด
พื้นฐาน :ปัจจุบัน KIAT เตรียมแผนเข้ารับงานใหญ่“ขนส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ” ให้กับบริษัทผู้ประกอบการน้ำมันรายใหญ่ในไทยมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 จะเติบโตต่อเนื่อง ทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 178 ล้านบาท เติบโต 62% ให้ Yieldสูง 7.9% และปี 64 กำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 204 ล้านบาท เติบโต 15% Yieldสูง 9.1% ประเมินหุ้น KIAT มี P/E ต่ำ กระแสเงินสดสูง D/E ต่ำ 0.10 เท่า โบรกให้เป้า 1.20บาท
TMIรับดีลใหญ่ฮ่องกง
TMI บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม เตรียมทุ่มงบ 200 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้า 2-3 MW รวมถึงมีส่วนเข้าร่วมประมูล “โรงไฟฟ้าชุมชุน 700 MW”เพื่อบรรลุเป้าหมาย 3 ปีข้างหน้า (63-65) มีโรงไฟฟ้า 50 MW
พื้นฐาน : ผลงานไตรมาส 4/63 เติบโตโดดเด่น (Q3/63กำไรสุทธินิวไฮที่ 6.38 ล.) หนุนทั้งปี 63 กำไรพุ่งทำนิวไฮ ส่วนปี 64 กำไรนิวไฮต่อเนื่อง พร้อมโกยกำไรไปล้างทุนสะสม และกลับมาจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
โดย“ธุรกิจพลังงานทดแทน” เดือน ม.ค.64 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพที่ บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ขนาด 1 MW ได้เริ่ม COD และ โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพที่จ.ราชบุรีขนาด 3 MW จะเริ่ม COD ในไตรมาส 3/64 ทำให้สิ้นปี 64 มีโรงไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 5.40 MW คาดสร้างกำไรเฉลี่ย 50-60 ล้านบาท/ปี ขณะที่ “ธุรกิจไฟฟ้าส่องสว่าง” ล่าสุดรายใหญ่จากฮ่องกงเข้ามาเจรจาสั่งออเดอร์ และเลือกให้ TMI เป็นฐานการผลิตเพื่อกระจายสินค้าส่งต่อไปยังยุโรป และ อเมริกา
PJWลุยร่วมทุน-กำไรกระฉูด
PJW บมจ.ปัญจวัฒนาพลาสติก หรือ PJW ราคาแอบพุ่งไม่หยุด!!! หลังมีกระแสข่าวซุ่มเจรจาพันธมิตรเพื่อเดินหน้าโครงการใหญ่ในประเทศ คาดจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ และอาจจะเริ่มสร้างรายได้ในช่วงครึ่งหลังปี 64 ทันที
พื้นฐาน : กูรูประเมินไตรมาส 4/63 กำไรสุทธิจะทำนิวไฮ และสูงกว่า 9 เดือนแรกของปี 63 ที่ทำกำไรสุทธิที่ 55.78 ล้านบาท เพราะทุกผลิตภัณฑ์ฟื้นตัวเด่น มีออเดอร์เข้ามาสูงขึ้น ทั้งกลุ่มชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์, กลุ่มบรรจุภัณฑ์นม-โยเกิร์ต, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคครัวเรือนและบรรจุภัณฑ์เคมี แถมโรงงานในประเทศจีนทั้ง 2แห่ง เริ่มหยุดขาดทุน และจะเริ่มสร้างผลกำไรในปี 64 ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง ทั้งปี 63 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮที่ 111 ล้านบาท เติบโตกว่า 75% จากปีก่อนแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 3 บาท
PIMOทำมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า
PIMO บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ ปัจจุบันมีกระแสข่าวว่า PIMO อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย เพื่อ “ร่วมทุน” ทำ “โครงการมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า(EV)” คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 3/64 นี้
พื้นฐาน : ปี63 คาดกำไรสุทธิมีลุ้นเฉียด 100 ล้านบาท เติบโตกว่า 250% จากปีก่อน และปี 64 กำไรสุทธิจะโตต่อเนื่อง เพราะล่าสุดบ.ยักษ์ใหญ่จากอเมริกา “Speck Pumps” เข้ามาเจรจาสั่งออเดอร์ BLDC pool pump ล็อตใหญ่ และออเดอร์ใหม่ๆจะไหลเข้ามาตลอดทั้งปี
แถม PIMO ยังได้รับอานิสงส์ วันที่ 18 ก.ค.64 ทางการสหรัฐจะมีผลบังคับใช้มอเตอร์ BLDC pool pump (มีผู้ผลิตรายใหญ่ญี่ปุ่น+สหรัฐเพียง 3 ราย ) เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนมอเตอร์สระว่ายน้ำ AC (ผู้ผลิตกว่า1,000รายส่วนใหญ่เป็นจีน) ทำให้ตลาด BLDC pool pump ในสหรัฐเติบโตอีก “หลายเท่าตัว” ซึ่งส่งผลดีต่อ PIMO ทำให้มีโอกาสได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้นเป็น “เท่าตัว”ภายในระยะอันใกล้นี้
www.mitihoon.com