BAM ปิดดีลหนี้ล็อตใหญ่ ดันผลงานกระฉูด199% (16/02/64)

1682

มิติหุ้น-BAM แย้มไตรมาส 4/63 คาดโชว์กำไรสุทธิที่ 892 ล้านบาท พุ่งพรวด 199.5% จากไตรมาสก่อน หลังโกยกำไรการให้สินเชื่อลูกหนี้ NPL แถมเร่งปิดบัญชีลูกหนี้ล็อตใหญ่ ด้านโบรกชี้ปี 64 ยอดจัดเก็บเงินสด NPLและNPA ล้นทะลัก ลุยอัพกำไรสุทธิเป็น 3.12 พันล้านบาท เติบโต 54.3% ปัจจุบันหุ้น Laggard  แนะนำ “ซื้อ” อัพเป้า 26.80 บาท

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ หรือ BAM ผู้บริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดย “บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 4/63 คาดกำไรสุทธิที่ 892 ล้านบาท เติบโต 199.5% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 46.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โชว์กำไรQ4พุ่ง199%

โดยไตรมาส 4/63 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 199.5% จากไตรมาสก่อนนั้น มีปัจจัยหนุนหลักจากทั้ง 1.รายได้ดอกเบี้ยคาดปรับขึ้น 3.6% จากไตรมาสก่อน สอดคล้องกับการชำระเงินคืนของลูกหนี้ปรับโครงสร้างที่ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ, 2.รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดปรับขึ้นเด่น 49.4% จากไตรมาสก่อน หลังคาดกำไรจากการให้สินเชื่อลูกหนี้ NPL ปรับตัวขึ้น 87.7% จากไตรมาสก่อน  เนื่องจากมีการเร่งเจรจาปิดบัญชีของลูกหนี้ขนาดกลาง 2-3 ราย (200-300 ลบ.ต่อราย) ซึ่งขอยืดระยะเวลาชำระเงินมาตั้งแต่ไตรมาส 2/63 และไตรมาส 3/63

ทั้งนี้บวกกับยอดขาย NPA ที่คาดเติบโตได้ดี 50.1% จากไตรมาสก่อน จากความสำเร็จของการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุกและการเปิดช่องทางขายใหม่ทั้ง Online และ Offline เพื่อเร่งระบายทรัพย์ NPA นอกจากนี้ด้วยภาวะดอกเบี้ยต่ำและ เศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวช่วยหนุนความต้องการทรัพย์มือสองให้ขยายตัวขึ้น ขณะที่คาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 3/63 เนื่องจากบริษัทมีนโยบายคุมค่าใช้จ่ายเข้มงวดมากขึ้น หนุนให้ทั้งปี 63 คาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 2,024 ล้านบาท ลดลง 69.1% จากปีก่อน

รับทรัพย์ขายNPL

พร้อมกันนี้จากทิศทางแนวโน้มการเจรจาปิดบัญชีลูกหนี้ NPL และการเร่งขาย NPA ที่ทำได้ดีกว่าคาด ฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 63/64 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 17% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 64 BAM จะมีกำไรสุทธิจำนวน 3,123 ล้านบาท โตเด่น 54.3% จากปีก่อน สอดคล้องกับยอดจัดเก็บเงินสดที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของ NPL และ NPA จากการพัฒนากระบวนการจัดการเอกสารและเปิดช่องทางขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทจะเริ่มนำ NPL มาเปิดประมูลขายโดยตรง(เบื้องต้นตั้งเป้าที่ 700-800 ลบ.) ช่วยให้บริษัทได้รับกำไรจากเงินลงทุนกลับมาเร็วขึ้น

หุ้น Laggard-อัพเป้า26.80บ.

โดยฝ่ายวิจัยมองว่า BAM เป็นหุ้น AMC ที่กำไรอยู่ในช่วงฟื้นตัวและเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากจำนวนหนี้เสียของสถาบันการเงินที่จะเพิ่มขึ้นในปี 64 ขณะที่ราคาหุ้นยัง Laggard จากกลุ่มมาก  ปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ต่ำเพียง 1.8x ต่ำกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่าง CHAYO และ JMT ที่ซื้อขายด้วย PBV 8x และ7.8x ตามลำดับ โดยยังมี Upside 32.6% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 26.80 บาท และคาดบริษัทจะจ่ายปันผลด้วย Payout Ratio 100% คิดเป็น Div.Yield 3% ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 26.80 บาท

www.mitihoon.com