KOOL สินค้าขายดีรับหน้าร้อน รุกเช่าซื้อทำเงิน-เป้า1.20บ. (16/02/64)

801

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ KOOL จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความเย็น ได้แก่ พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ และพัดลมอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า “MASTERKOOL” และ “CoolTop” โดย “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุนในหุ้น KOOL คาดผลงานช่วงครึ่งแรกปี 64 จะเติบโตโดดเด่น

สินค้าขายดีรับน่าร้อน

เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน หรือ ช่วงหน้าร้อน ทำให้ยอดขายสินค้าหลัก อย่างผลิตภัณฑ์ทำความเย็น ได้แก่ พัดลมไอเย็น และพัดลมไอน้ำสร้างยอดขายอย่างโดดเด่น รวมถึงสินค้าใหม่เพื่อรองรับสถานการณ์ PM2.5 และ Covid-19 นั้นได้รับกระแสตอบรับที่ดีเริ่มสร้างยอดขายโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

รวมถึงการที่ KOOL ได้ปรับโมเดลธุรกิจเป็นแบบเช่าซื้อ และยังได้ร่วมทุนกับ “กลุ่มบ.แคปปิตอล ลิ้งค์” ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจในส่วนของการให้สินเชื่อเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ KOOL มีธุรกิจที่หลากหลายและมั่งคงมากขึ้น ดังนั้นทั้งปี 64 คาดกำไร และ รายได้จะเติบโตก้าวกระโดด แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 1.20 บาท

ปรับโมเดลทำเงิน

“นายนพชัย วีระมาน” ประธานกรรมการบริหาร และ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 64 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบ Conservative ไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน เพราะนอกจากสินค้าที่จะสร้างยอดขายเติบโตตามฤดูกาลแล้ว บริษัทยังได้ปรับโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างมั่งคงด้วย

โดยได้ “ปรับโมเดลธุรกิจใหม่” การให้บริการ “เช่าซื้อ” แก่ “กลุ่มลูกค้าองค์กร” ล่าสุดกระแสตอบรับดีมาก ซึ่งมีกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม,โรงพยาบาล, และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ เข้ามาเจรจาขอ“เช่าซื้อ”มากขึ้น ซึ่งธุรกิจนี้ให้มาร์จิ้นสูง จึงทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงแรก บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และสนับสนุนให้สัดส่วนรายได้ Recurring income เพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งเป้า 2-3ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วน Recurring income ไม่ต่ำกว่าเป็น 50% ของรายได้รวม จากปัจจุบันไม่รายได้ในส่วนนี้

ผุดสินค้ารับโควิด-PM2.5

ด้าน “ตลาดส่งออก” เติบโตโดดเด่นมากขึ้น เพราะบริษัทได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพื่อรองรับสถานการณ์ PM2.5 และ Covid-19 อาทิ การกำจัดเชื้อไวรัส COVID-19 ด้วยเครื่องผลิตก๊าซโอโซน, เครื่องฟอกอากาศด้วย UV เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทำให้มีออเดอร์เริ่มไหลเข้ามามากขึ้น รวมถึงบริษัทได้เน้นการตลาดผ่านช่องทาง “ออนไลน์” ควบคู่ไปด้วย

www.mitihoon.com