มิติหุ้น-MACO รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563/64 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 496 ล้านบาท ลดลง 38.4% YoY โดยมีรายได้จากสื่อโฆษณานอกบ้านลดลง 60.0% YoY คิดเป็น 168 ล้านบาท และรายได้จากงานด้านระบบครบวงจร 328 ล้านบาท ลดลง 14.9% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงยืดเยื้อ ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่นับเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ในไตรมาสนี้ MACO มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 95 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมมุ่งหน้าปรับตัวมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่เพื่อช่วยส่งเสริมผลการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
นายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO หนึ่งในผู้นำสื่อโฆษณากลางแจ้งที่มีความหลากหลายทั้งสื่อโฆษณาภาพนิ่งและสื่อดิจิทัลที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน เผยภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563/64 ว่ายังคงได้รับผลกระทบอย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวอย่างรุนแรงอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุให้แบรนด์และนักการตลาดยังคงลังเลในการใช้จ่ายงบโฆษณา ทำให้การดำเนินงานของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเศรษฐกิจของไทยเริ่มมีการฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ประกอบกับการออกนโยบายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ความต้องการด้านการโฆษณาเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ตลาดอินโดนีเซียยังแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวจากการผ่อนคลายของมาตราการต่างๆ เช่นกัน ทำให้ภาพรวมผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2563/64 บริษัทฯ สามารถบันทึกผลขาดทุนสุทธิลดลง 40.8% จากไตรมาสก่อนหน้า
จากอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงคาดว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะยังคงได้รับผลกระทบในทางลบ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้ โดยมอบหมายให้ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารจัดการสื่อโฆษณาในประเทศของ MACO ทั้งหมด ขณะที่บริษัทฯ จะมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ ร่วมกับการดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการเจรจาต่อรองขอลดค่าเช่าพื้นที่สื่อโฆษณาภายในประเทศ และค่าสัญญาสัมปทานของธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางวิกฤตทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้เฟ้นหาธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทฯ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนได้อย่างยั่งยืนร่วมด้วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติม
www.mitihoon.com