STGT กำไรปี 63 ทุบสถิติ 1.4 หมื่นล.

260

 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) โดย นางสาวธนวรรณ เสงี่ยมศักดิ์ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานบัญชีและการเงิน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 63 บริษัทสามารถสร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 30,405.1 ลบ. เติบโตร้อยละ 153.5 YoY และมีกำไรสุทธิได้สูงถึง 14,400.9 ลบ. ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2,245.8 YoY คิดเป็นกำไรที่ 5.94 บาทต่อห้น

โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาขายที่ได้ปรับเพิ่มสูงขึ้น ในทุกไตรมาส ทำให้ตลอดทั้งปี 2563 ราคาขายเฉลี่ย (ASP) เติบโตอย่าง ก้าวกระโดดอยู่ที่1,087 บาทต่อพันชิ้น (USD 34.93) ขยายตัวร้อยละ 80.3 YoY ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือความต้องการในการบริโภคและกำลังซื้อที่ แข็งแกร่งจากทั่วทุกมุมโลก จากการใช้ถุงมือยางเป็นอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) ทั้งในเชิงทางการแพทย์และ อุตสาหกรรม รวมทั้งจากกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ (New Group of Demand) ที่การ ระบาดของ COVID-19 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

โดยบริษัท ฯ มีแผนการขยายกำลังการผลิตเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ 80,000 ล้านชิ้น ภายในปี 2567 ซึ่งได้เริ่มดำ เนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วกว่า แผนเดิมที่วางไว้อีก 2 ปีโดยภายในไตรมาส 1/64 บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก โรงงานสาขาสุราษฎร์ธานี (SR2) โรงงานแห่งใหม่ในจ.สุราษฎร์ธานี (SR3) ภายในไตรมาส 2/64 และโรงงานแห่งใหม่ที่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา ภายในไตรมาส 3/64 โดยภายในสิ้นปี 2565 บริษัท ฯ จะมีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 50,000 ล้านชิ้นต่อปีคิดเป็นอัตรา การเติบโตจากปี 2563 ที่ร้อยละ 54.5

ทั้งกำไรSTGT ถือว่าสูงว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ราว 6พันลบ. อย่างไรก็ตามปริมาณการขายเพิ่มขึ้นแบบชะลอลงที่ 0.3 % ขณะที่รายได้จากราคาขายเติบโต 67 % ราคาเหมาะสม 50 บาท แจ้งปันผล 2 บาท Div yield 5.03 % XD 12 เม.ย.64

www.mitihoon.com