SSP รับทรัพย์CODโรงไฟฟ้า รายได้ปีนี้โตกระฉูด20% (18/02/64)

349

มิติหุ้น – SSP ย้ำการเติบโตปี 64 รับรองวิ่งเข้าเป้า รายได้รวมโตเพิ่ม 20% จากปี 63 โดยมีตัวหนุนจากการ COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น ขนาด 20 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 3/64 ตามติดมาด้วย COD โรงไฟฟ้าเวียดนามขนาด 48 เมกะวัตต์ ฟากโบรกส่องผลงานไตรมาส4/63 กำไรปกติโตทะลุ 30% หรือราว 177 ล้านบาท ฟันธงอนาคตโตยาว เชียร์ “ซื้อ” 

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP โดย นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2564 นี้ จะโตไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2563 เนื่องจากจะมีการ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาต่อเนื่องตลอดทั้งปี

รับทรัพย์2โรงไฟฟ้าCODครึ่งปีหลัง

โดยขณะนี้บริษัทยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Leo1 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังผลิต  20 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 3/64 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ที่คาดจะ COD ได้ในช่วงไตรมาส 4/64 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการ Leo2 ในประเทศญี่ปุ่นขนาดกำลังการผลิต 17 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ในปี 2566

ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาที่ 143 เมกะวัตต์ และมี Backlog ในมืออีกกว่า 134.6 เมกะวัตต์ ซึ่งเตรียมทยอย COD ภายในช่วง 4 ปีข้างหน้า ซึ่งโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนามที่ COD ในช่วงครึ่งปีหลังปี64 นี้ จะหนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้า ทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเป็น 400 เมกะวัตต์ ภายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

Q4/63ปั๊มกำไรปกติโตทะลุ30%

ด้าน บล.เคทีบีเอสที (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับราคาเป้าหมาย SSP ขึ้นเป็น 15 บาท โดยประเมินกำไรปกติไตรมาส4/63 ที่ 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +31% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการ COD โครงการใหม่ ในขณะที่ SSP ยังคงตั้งเป้ากำลังผลิตครบ 400MW ภายใน 5 ปี ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีโดยเฉพาะการมีโอกาสสูงมาก ที่จะได้โครงการลมเวียดนามเฟส 2 (38MWe) มาพัฒนาต่อหลังได้ PPA เฟส 1 ไปแล้ว

นอกจากนี้ SSP ยังอยู่ระหว่างเจรจาอีกหลายโครงการในภูมิภาคเอเชีย คาดเห็นความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในปี 64 นี้ ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2564-2567 ขึ้น โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยใหม่ CAGR ที่ 15% จากเดิม 7% สะท้อนกำลังการผลิตจากโครงการใหม่ (โครงการลมเวียดนามเฟส 1-2 โดย COD ในปี 2564 และ 2567) ซึ่งจะเพิ่มจากกำลังการผลิตในประมาณการเดิมของฝ่ายวิจัยอีกกว่า 40% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

www.mitihoon.com