มิติหุ้น-บทวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) รายงานกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 4/63 เท่ากับ 1.46 พันล้านบาท ตามคาด ลดลง 29.1% qoq (แต่เพิ่มขึ้นถึง 37.8% yoy) เนื่องจากได้ผ่านช่วง high season ไปแล้ว อีกทั้ง Product mix ที่เปลี่ยนไปและผลกระทบจากค่าเงินบาทเฉลี่ยงวด 4/63 แข็งค่าขึ้น กดดัน gross margin งวด ไตรมาส 4/63 อ่อนตัวลงมาที่ 18.0% นอกจากนี้ ยังเห็นสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/Sales งวด ไตรมาส 4/63 ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 12.2% จากค่าใช้จ่ายโฆษณาในการส่งเสริมการขายมากขึ้น และค่าขนส่งเพิ่มขึ้น จากปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด ไตรมาส 4/63 ถือว่าเติบโตได้ดีจากงวด ไตรมาส 4/63 จากธุรกิจทูน่ากระป๋องและอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโต คงประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 2.3% yoy จากธุรกิจอาหารแช่เย็นแช่แข็ง (กุ้งและแซลมอน) และธุรกิจร้านอาหาร Red Lobster ฟื้นตัว กำหนด FV ปี 2564 เท่ากับ 20 บาท TU ประกาศจ่ายปันผลงวด 2H64 เท่ากับ 0.40 บาท คิดเป็น Div Yield 2.9% สำหรับงวด 2H63 ขึ้น XD วันที่ 8 มี.ค. 64 และจ่ายปันผลวันที่ 21 เม.ย. 64 ยังแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com