มิติหุ้น – วายแอลจี ประเมินราคาทองคำช่วงต้นเดือนมีนาคม ยังเคลื่อนไหวใกล้เคียงเดือน ก.พ. ในทิศทางแกว่งตัว แม้จะยังมีปัจจัยหนุนจากถ้อยแถลงประธานเฟดยังเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินไม่มีสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่ยังมีปัจจัยลบกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเทียบสกุลยูโร และกองทุน SPDR ยังขายทองคำ แนะนักลงทุนเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง จับสัญญาณหากผ่าน 1,816 ดอลลารสหรัฐต่อออนซ์มีโอกาสไปต่อ ส่วนราคาในประเทศหากเข้าใกล้ 25,000 บาทเป็นจุดเข้าซื้อได้ และรอขายเมื่อราคาดีดตัวเข้าใกล้ 26,000 บาท ล่าสุดออกโปรโมชั่น วางเงินประกันเพียง 5 หมื่นบาท ลงทุนทองคำแท่ง 99.99 ได้ถึง 1 กิโลกรัม
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงต้นเดือน มี.ค.จะยังคงมีทิศทางใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือน ก.พ. ที่ยังคงแกว่งตัว แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ได้มีถ้อยแถลงที่บ่งชี้ว่าเฟดจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป เพราะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนันสนุนทองคำ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังอยู่ในระดับไม่น่าเป็นห่วง เฟดจึงยังไม่เร่งรีบในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ราคาทองคำเริ่มดีดตัวกลับมา
อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้คือการกระจายวัคซีนที่มีความคืบหน้า จึงทำให้เฟดมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ประเด็นนี้จึงสะกัดการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ นอกจากนี้ในส่วนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร ที่ได้รับแรงกดดันจากการกระจายวัคซีนในสหภาพยุโรปที่กระจายได้น้อยกว่าภูมิภาคอื่นจึงส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโร อีกทั้งกองทุนทองคำเช่น SPDR ก็ยังคงขายทองคำต่อเนื่อง
นอกจากนี้พบว่าตามสัญญาณทางเทคนิคของทางคำในระยะกลางยังคงเป็น sideway down โดยเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับลดลงไปอยู่จุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ที่ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากนั้นได้มีการฟื้นตัวมาที่ 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ ดังนั้นสำหรับคำแนะนำนักลงทุนที่มีทองคำในมือหากราคาทองคำในช่วงนี้ไม่ผ่าน 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต้องระมัดระวังทองคำอาจจะปรับฐานครั้งใหม่ ดังนั้นนักลงทุนจึงควรแบ่งขายทำกำไรออกมา แต่หากราคาทองคำสามารถผ่าน 1,816 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ไปได้มีโอกาสไปต่อที่ 1,827-1,841 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการเข้าซื้อยังต้องเน้นเข้าซื้อในระยะสั้นเมื่อราคาอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,779-1,760 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เท่านั้น และไม่ควรซื้อทองคำมากเกินกว่าความเสี่ยงที่รับได้พร้อมตั้งตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ล่าสุด YLG ได้ออกโปรโมชั่นนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำแท่ง โดยการวางเงินหลักประกัน 50,000 บาท สามารถซื้อขายทองคำแท่ง 96.5% ได้ 60 บาททองคำ และซื้อทองคำแท่ง 99.99% ได้ 1 กิโลกรัม และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกซื้อทางออนไลน์ผ่าน http://www.ylgprecious.co.th/ ส่วนนักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำแท่งสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02–687–9888 และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup และหากสนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Gold Online Futures และ Gold Futures ) สามารถติดต่อได้ทาง www.ylgfutures.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02–687–9999
www.mitihoon.com