EKH สตรอง! ปี 63 ทำกำไรแตะ 72.10 ลบ.

68

มิติหุ้น – บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) โชว์ผลงานปี 63 กำไรสุทธิเท่ากับ 72.10 ล้านบาท แถมบอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท โดยกำหนดจ่ายวันที่ 21 พ.ค.64 ขณะที่ “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ประเมินแนวโน้มธุรกิจปีนี้ยังสดใส จากจำนวนผู้มาใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น ระบุจากนี้ไป EKH ติดปีกแข็งแกร่ง เดินหน้ายกระดับให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (EKH) ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า แม้ปี 63 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก รวมถึงผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ   แต่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ถือว่ายังเติบโตอยู่ในทิศทางบวก โดยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563) บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 72.10 ล้านบาท

ทั้งนี้แม้ผลการดำเนินงานจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 160.30 ล้านบาท เนื่องจากช่วงต้นปีถึงกลางปี 2563 เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้เข้ารับบริการทั้งในส่วนของคนไข้ใน และคนไข้นอก ลดลง อีกทั้งการปิดประเทศส่งผลต่อการเข้ารับบริการศูนย์ผู้มีบุตรยากของบริษัทย่อย  แต่ในช่วงไตรมาส 4/2563 เกิดการแพร่ระบาดหนักของโรคไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลทำให้มีผู้เข้ารับการตรวจไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนมากขึ้น ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ป่วยใน (IPD) ผู้ป่วยนอก (OPD) จากการติดเชื้อ RSV ในเด็กก็ยังคงเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง  จึงช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดปี 2563 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาท  รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้นไม่เกิน 66.00 ล้านบาท โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นที่จะมีชื่อปรากฏ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2564 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564

นายแพทย์อำนาจ กล่าวต่อถึง ทิศทางธุรกิจปีนี้ เชื่อว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น  เนื่องจากผู้ป่วยใน (IPD) ผู้ป่วยนอก (OPD) ยังคงเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับการให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น  โดยที่ผ่านมาได้ขยายศูนย์กุมารเวช, ศูนย์ หู ตา คอ จมูก ศูนย์ทันตกรรม และในปี 64 จะมีการขยายศูนย์กายภาพบำบัด ศูนย์ไตเทียม จึงทำขีดความสามารถในการรองรับการเข้ามาใช้บริการของคนไข้ได้เพิ่มมากขึ้น

“นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดหนักของโรคไวรัสโควิด-19 ช่วงเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยรวม แต่จากการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากนั้น ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของโรงพยาบาล  โดยมีผู้มาใช้บริการเข้ารับการตรวจไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของการบริการด้านการแพทย์ Online Telemedicine, Drive Thru, Delivery รวมถึงการเดินทางมาใช้บริการ  ซึ่งช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตอยู่ในทิศทางบวกได้ และต่อจากนี้ไปบริษัทฯ จะยังคงมุ่งขยายธุรกิจในทุกภาคส่วนให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เพื่อทำให้รายได้ และกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน อันจะนำมาซึ่งการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว”นายแพทย์อำนาจ กล่าว

www.mitihoon.com