CCP โชว์ผลงานปี 63 รายได้รวม 2,457.05 ล้านบาท กำไรสุทธิ 93.34 ล้านบาท โต 50.06 % บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.03 บาท

135

 

มิติหุ้น-CCP เผยผลประกอบการปี 63 รายได้รวม 2,457.05 ล้านบาท กำไรสุทธิจากผลการดำเนินงาน 93.34 ล้านบาท โต 50.06% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.03 บาท มองอุตสาหกรรมคอนกรีตปี 64 ครึ่งปีแรกชะลอ แนวโน้มครึ่งปีหลังดีกว่า ชูกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนการผลิต เพิ่มมาร์จิ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ คอนกรีตสำเร็จรูปรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน เดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 2,600 ล้านบาท

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 2,457.05 ล้านบาท ลดลง 181.79 ล้านบาท หรือ   6.89 % จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,638.84  ล้านบาท และ กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 93.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.14 ล้านบาท หรือ 50.06 % จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 62.20 ล้านบาท  ​

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในส่วนของรายได้รวมปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ในส่วนของกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกๆกลุ่ม เนื่องมาจากปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปของโครงการภาครัฐและเอกชนสูงขึ้น และการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทย่อย บมจ.สมาร์ทคอนกรีต (SMART) ปรับตัวดีขึ้นมาก

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอจ่ายปันผลเป็นเงินสดแก่ผู้ถือหุ้นสัดส่วน 112.71% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย(งบเฉพาะกิจการ) หรือ คิดเป็นเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท รวมจำนวนเงิน 83,040,905.43 ล้านบาท โดยเตรียมเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 พิจารณาอนุมัติต่อไป

นายอาทิตย์ กล่าวต่อไปถึงทิศทางธุรกิจปี 2564 ครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบในระยะสั้นจากการแพร่ระบาดโควิด 19 ปิดเมืองชลบุรี ส่งผลให้งานชะลอหรือต้องเลื่อนส่งมอบงาน คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าครึ่งปีแรก จากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตปรับตัวดีขึ้น

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจงานโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมต่อ 3 สนามบิน โครงการปรับปรุงทางหลวง โครงการถนนสายรองในพื้นที่อู่ตะเภา มาบตาพุด ชลบุรี  โครงการพัฒนาท่าเรือ แหลมฉบัง และ ท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3  อีกทั้ง ยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง อาทิ งานถนน อาคารสำนักงาน ขณะที่นโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC  ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม คลังสินค้า และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้  บริษัทจะมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนการผลิต-การขาย ลดค่าใช้จ่ายพร้อมเสริมศักยภาพการแข่งขันและเพิ่มความสามารถในการทำกำไรธุรกิจคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mix) เนื่องจากเทรนด์การก่อสร้างในปัจจุบันใช้ระยะเวลาที่สั้นลง ต้องปรับกลยุทธ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะให้บริการในลักษณะ Mobile Plant โดยจัดตั้งแพลนท์ปูนชั่วคราวที่สามารถรื้อถอนได้  ให้บริการเช่ารถขนส่ง ขายคอนกรีต รวมทั้งให้บริการตรวจสอบคุณภาพคอนกรีต

ด้านสินค้า Precast ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออกสินค้านวัตกรรมใหม่อย่างต่อเนื่อง รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ งานถนน งานสะพาน งานเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดิน ขยายฐานลูกค้าทั่วภูมิภาค

ขณะที่สินค้าประเภทบล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป อาทิ รางระบายน้ำ Precast สำหรับงานจัดการ Landscape มีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันมีหน่วยงานหลายแห่งเริ่มนำผลิตภัณฑ์เข้าไปใช้ในงานด้าน Landscape  บริษัทจะเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าและกระจายความเสี่ยง รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วประเทศ

สำหรับเป้าหมายการเติบโตปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2,600 ล้านบาท หากการแพร่ระบาดโควิด-19 จบอย่างรวดเร็วในครึ่งปีแรก และสัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐ 80% และภาคเอกชน 20%

www.mitihoon.com