PRINC จ่อรับทรัพย์นำเข้าวัคซีน หนุนรายได้เร่งตัวแรงเข้าเป้า(05/03/64)

1000

มิติหุ้น – PRINC ปูเสื่อรอรับทรัพย์ รัฐไฟเขียวเอกชนนำเข้าวัคซีนต้านโควิด บิ๊ก CEO “สาธิต วิทยากร” ย้ำมีความพร้อมในการร่วมกระจายวัคซีน ขณะเดียวกันยังเดินหน้าขยายธุรกิจเต็มสูบ มั่นใจการเงินแกร่ง D/E ต่ำเพียง 0.73 เท่า การันตีผลงานปีนี้วิ่งเข้าเป้าตามแผนที่วางไว้

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายสาธิต วิทยากร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายจะอนุญาตให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยให้ยื่นเอกสารขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทางบริษัทมีความพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระจายวัคซีน เพื่อให้การฉีดวัคซีนครอบคลุมจำนวนประชากรในประเทศโดยเร็วที่สุด เนื่องจากคาดหวังว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยภาพรวมให้กลับมาฟื้นตัว

โค้งหลังฟื้นตัวแรง-รายได้พุ่ง

โดยบริษัทประเมินว่าภายหลังเริ่มนำเข้าวัคซีน จะผลักดันให้ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 นี้ และยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากจะรับรู้ผลบวกจากการขยายโรงพยาบาลในปีที่ผ่านมา จำนวน 2 แห่งคือ โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ จังหวัดชุมพร และโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2564 นี้ อีก 2 แห่ง คือ คือโรงพยาบาลพริ้นซ์ ลำพูน และโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นสูงถึงจำนวน 8,297.1 ล้านบาท และอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.73 เท่า อยู่ในระดับบริหารจัดการได้ ทำให้บริษัทยังคงแผนการลงทุนในช่วง 3 ปีนี้ (2564-2566) จำนวน 5 พันล้านบาท จากการขายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมามุ่งเน้นการขยายจำนวนโรงพยาบาลให้เป็นไปตามเป้าหมาย ครบ 20 แห่ง, คลินิกใกล้บ้านใกล้ใจ 100 แห่ง และศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ 5 แห่ง

มั่นใจผลงานโตตามแผนที่วางไว้

อย่างไรก็ดีในปี 2564 นี้ บริษัทมีแผนขยายโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 แห่ง ใน 3 ภูมิภาค ซึ่งภาพรวมผลประกอบการของบริษัท อยู่ภายใต้แผนและการคาดการณ์ของบริษัท โดยปกติของธุรกิจโรงพยาบาลจะใช้ระยะเวลา 5 ปีในการคืนทุน ซึ่งบริษัทได้เริ่มลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลมาเป็นระยะเวลา 3 ปีเศษแล้ว

ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทในงวดปี 2563 มีรายได้รวม 2,650.7 ล้านบาท ลดลง 7.7% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 2,871.5 ล้านบาท กระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ขณะเดียวกันพบว่าต้นทุนเพิ่มขึ้นสูงกว่าการเติบโตของรายได้ เป็นผลให้บริษัทยังคงแสดงผลขาดทุนสุทธิ 537 ล้านบาท โดยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการขยายโรงพยาบาลแห่งใหม่

www.mitihoon.com