ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ หรือ BJC ว่า ผู้บริหารของ BJC วาง Guidance รายได้ธุรกิจของ BJC ทั้งกลุ่มปีนี้จะเติบโต low to mid-single-digit โดยตั้งเป้าหมาย 4 ธุรกิจเติบโตดังนี้
1.ธุรกิจ BIGC มองรายได้เติบโต low-mid single digit โดยยังมองยอดขายสาขาเดิมทรงตัวถึงบวกเล็กน้อย เพราะงวดไตรมาส 1/63 มีฐานกำไรที่สูงและสาขาแหล่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังไม่ได้รับผลกระทบ โดยการเติบโตของรายได้จะมาจากสาขาเปิดใหม่ ซึ่งปีนี้มีแผนเปิด Hyper Market 2 สาขา มินิบิ๊กซี 100 สาขา ขณะรายได้พื้นที่เช่าคาดจะเติบโตได้ราว 5-6% YoY รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะขยับขึ้นได้ 50 bps.
2.ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วและกระป๋อง ตั้งเป้ารายได้เติบโต low-mid single digit โดยปีนี้จะมีการเพิ่มการผลิตกระป๋องขนาด 100 และ 200 มิลลิลิตร ช่วยเพิ่มฐานรายได้ ขณะอัตรากำไรขั้นต้นคาดจะเพิ่มขึ้น 100 bps. เพราะวัตถุดิบ อลูมินัม ที่ใช้ผลิตกระป๋องราคาขยับสูงขึ้น แต่ทางบริษัทได้ทำการ Hedging ไว้เกือบทั้งหมดของยอดสั่งซื้อปีนี้แล้ว
3.ธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค ตั้งเป้าเติบโต mid-high sing digit โดยเน้นแตกไลน์สินค้ามาร์จิ้นสูง เช่น สบู่เหลวพรีเมี่ยม กลิ่นและแพ็คเก็จใหม่ รวมถึงกระดาษ Cellox ที่มีการผลิตรุ่นใหม่ ซึ่งคาดจะขยับอัตรากำไรขั้นต้นได้ 50-100 bps.
4.ธุรกิจสินค้าสุขภาพ เวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ คาดรายได้จะเติบโต 5-6% โดยมาจากงบประมาณภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ขณะอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว
ทั้งนี้ บริษัทมีการปรับโครงสร้างองค์กรปีก่อนในช่วงไตรมาส2 – ไตรมาส3 ปี63 โดยมีค่าใช้จ่าย one-time ที่เกิดขึ้นจากการลดพนักงานจำนวนมาก เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย SG&A ไปไตรมาสละ 220 ล้านบาท หรือ 880 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ปีนี้ คาด Effective Tax Rate จะเหลือ 15% เพราะสามารถนำขาดทุนสะสมของบริษัทย่อยมาลดหย่อนได้
ความเห็น
กำไรงวดไตรมาส 1/64 ยังมีแนวโน้มลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากฐานกำไรไตรมาส 1/63 ที่ยังที่ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะทีจะเริ่มเห็นการเติบโตของกำไรเมื่อเทียบแบบ YoY ตั้งแต่ไตรมาส2/64 เป็นต้นไป อีกทั้งคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางมาไทยได้ในครึ่งหลังของปี 2664 จะช่วยให้ธุรกิจของ BIGC ฟื้นตัวเร็วขึ้น
นอกจากนี้ การประหยัดค่าใช้จ่าย SG&A ปีละ 880 ล้านบาทจะเริ่มเห็นผลปีนี้ รวมถึง Effective Tax Rate ที่ต่ำลงมากจากปีก่อนหน้าซึ่งมีธุรกิจบางบริษัทขาดทุน คาดจะช่วยให้กำไรในปี 64 อยู่ที่ 5.7 พันล้านบาท ฟื้นตัว 28% YoY ขณะราคาเป้าหมายหุ้นปี64 อยู่ที่ 43 บาท upside 12% และยังได้รับเงินปันผลของงวดครึ่งปีหลังปี 63 อีก 0.60 บาท D/P 1.55% XD 29 เม.ย. นี้ ยืนยัน “ซื้อ”