HFTออเดอร์ล้นแววกำไรแรง เล็งรุกตลาดรถEVโกยเงิน

991

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ฮั้วฟง รับเบอร์ (ไทยแลนด์) หรือ HFT” ผู้ผลิตยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยานภายใต้เครื่องหมายการค้า “DURO” และสำหรับรถจักรยานยนต์ภายใต้เครื่องหมายการค้า “DUNLOP” โดย “แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของ HFT จะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/63 ที่มีกำไรราว 146 ล้านบาท และเทียบกับไตรมาส 1/63 ที่มีกำไรสุทธิ 126.6 ล้านบาท

เนื่องจากในปัจจุบันมีออเดอร์ หรือคำสั่งซื้อสินค้า จากบรรดาลูกค้าค่ายรถจักรยานยนต์ ทั้งฮอนด้าและคาวาซากิ เพิ่มเข้ามาจำนวนมาก หลังจากที่ทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดมาอย่างต่อเนื่อง นับจากไตรมาส 4/64 เป็นต้นมา ในขณะที่ออเดอร์จาก “กลุ่มตลาดทดแทนยางเก่าที่สึกหรอ” ยังเร่งตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถส่วนตัว โดยเฉพาะจักรยานยนต์ในการเดินทางมากขึ้น ซึ่ง HFT มีแผนที่จะมุ่งตลาดขายตรงไปยังบรรดาร้านค้าปลีกและร้านค้าส่งใน กทม.รวมถึงจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อขยายตลาด

เตรียมลุยตลาดรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเตรียมพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อรองรับรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่ขณะนี้กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ของกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์หันมาให้ความสนใจกันอย่างมาก ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการของ HFT ในช่วงครึ่งปีหลังของปี64 เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น

ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ ประเมินว่า ในปี 2564 HFT มีโอกาสเติบโตทำนิวไฮต่อเนื่อง จากการเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7 บาท

พันธมิตรยุโรปจ่อป้อนออเดอร์

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายจวง จื้อ เหยา กรรมการ HFT ระบุว่า รายได้ในปี 2564 จะเติบโตจากปีก่อนหน้าอย่างมาก จากการที่ประชาชนหันมาใช้รถส่วนตัวในการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้ความต้องการและคำสั่งซื้อยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีพันธมิตรรายใหญ่จากกลุ่มเอเชียและยุโรปให้ความสนใจเข้ามาเจรจาเพื่อสั่งซื้อ (ออเดอร์) สินค้าล็อตใหญ่ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้

ส่วนราคาวัตถุดิบอย่างยางพารา ที่ผ่านมาแม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะได้สต็อกวัตถุดิบไว้รองรับการผลิตอย่างเพียงพอ ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการปรับราคาจำหน่ายสินค้าให้เหมาะสมกับราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปแล้วด้วย

www.mitihoon.com