CHEWA ตั้งเป้า 2 ปี ขึ้นแท่นเบอร์1 ด้านคุณภาพ-บริการ โชว์แผนการพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ปี 64 เป็นปีแห่งการฟื้นฟู ตั้งเป้ารายได้ 2.5 พันล.

145

 

“ชีวาทัย” เปิดเกมรุกวางเป้า 2 ปี ขึ้นที่ 1 ในใจลูกค้าด้านคุณภาพและบริการ เผยแผนธุรกิจปี 2564 เดินหน้ารักษามาตรฐาน Zero Defect เพื่อเป็นนักพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบและแนวสูงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมอัดแคมเปญ “CHEWATHAI ฉลองครบรอบ 13 ปี” ลุ้นฟรี 13 ล้าน ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2,500 ล้านบาท

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า บริษัทได้การตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในใจของลูกค้าด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯช่วงรายได้น้อยกว่า 5 พันล้านบาท โดยในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย

อีกทั้งในปี 2564 บริษัทได้มีการจัดแคมเปญ CHEWATHAI ฉลองครบรอบ 13 ปี ลุ้นฟรี 13 ล้าน” ตลอดปี 2564 เพื่อตอกย้ำความสำเร็จและมอบของขวัญให้ลูกค้า เมื่อจองและโอนโครงการในเครือชีวาทัยระหว่างเดือนมีนาคม- ธันวาคม 2564 มีสิทธิร่วมลุ้นรับบัญชีเงินฝากและ Voucher Central รวมมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท

สำหรับในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.64 พันล้านบาท เนื่องจาก ณ สิ้นปีบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,178 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ในปีนี้หลักๆ มาจากคอนโดมีเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ อาทิ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ มูลค่า 1 พันล้านบาท มี Backlog แล้ว 56% และโครงการชีวาทัย ฮอลมาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 1 มูลค่า 1.1 พันล้านบาท Backlog 60% นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ทั้งแนวสูงและแนวราบที่จะทยอยโอนเข้ามาอีก โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จาก Backlog ที่มีอยู่ในปีนี้ อยู่ที่ 1,611 ล้านบาท และส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

“สถานการณ์ของตลาดอสังหาฯ ในปี 2564 สำหรับชีวาทัยมองว่าเป็นปีแห่งการฟื้นฟูเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แม้ในช่วงที่ผ่านมาเรายังไม่มีการลงทุนหรือพัฒนาโครงการใหม่ๆ ทำให้บริษัทมุ่งเน้นไปที่การบริหารการขายที่มีประสิทธิภาพเพื่อระบายสต็อกจากโครงการเดิมให้ได้มากที่สุด สำหรับปีนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่เริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ โดยปีนี้วางแผนเพื่อเข้าซื้อที่ดิน จำนวน 3 แปลง พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 1 แปลง และคอนโดมีเนียม Low-Rise 2 แปลง มูลค่าโครงการ 2,830 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เรายังต้องระมัดระมัดและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบในการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลานี้อีกด้วย เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต” นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 120.43 ล้านบาท เติบโต 318.69% จากปี 2562 บริษัทขาดทุน 55.07 ล้านบาท และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,643.32 ล้านบาท เติบโต 45.58% จากปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,128.81 ล้านบาท ขณะเดียวกันในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติจ่ายเงินปันผล 0.0209 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ที่จะจัดขึ้นในวันที่   1 เม.ย. 2564 ณ  ห้องแมนดารินเอ ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 8 เม.ย. 2564 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 9 เม.ย. 2564 และบริษัทมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30 เม.ย. 2564

www.mitihoon.com