STGT ทุ่ม4.4หมื่นล้านอัพกำลังผลิต รุกเทรดตลาดหุ้นสิงคโปร์ (10/03/64)

878

 

มิติหุ้น – STGT ลั่นผลงานปี 64 โตสดใส รับดีมานด์ถุงมือยางพุ่งไม่หยุด หนุนผลงานไตรมาสแรกยังเพิ่มขึ้น วางงบลงทุน 4.4 หมื่นลบ. รองรับแผนขยายกำลังผลิต 1.02 แสนล้านชิ้น ภายในปี 69 ส่วนการนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์คาดช่วงไตรมาส 2/64 ย้ำไม่มีการออกหรือเสนอขายหุ้นใหม่ กูรูเคาะเป้า 65 บ.

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก โดย “นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 64 มั่นใจจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการใช้ถุงมือยางทั่วโลกที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้หลายประเทศเริ่มทยอยฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตามในการฉีดวัคซีนก็มีความจำเป็นต้องใช้ถุงมือยางและการสวมใส่ถุงมือยางในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กลายเป็นพฤติกรรม New Normal ในสังคม

ออเดอร์ล้น-ราคาขายขยับ20%

ขณะที่สถานการณ์ราคาถุงมือยางยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงมีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้า โดยถุงมือยางธรรมชาติมีออเดอร์ล่วงหน้า 13 เดือน และถุงมือยางไนไตรล์ มีออเดอร์ล่วงหน้า 30 เดือน มั่นใจดีมานต์ยังคงแข็งแกร่ง

เข้าเทรดตลาดหุ้นสิงคโปร์

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ประชุมบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เตรียมการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Secondary Listing by way of Introduction) ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลและเอกสารต่างๆ เพื่อนำเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์พิจารณาอนุมัติ คาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จและสามารถนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนและซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ภายในเดือน เม.ย.-พ.ค. นี้

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่มีการออกหรือเสนอขายหุ้นใหม่ เพื่อรองรับการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ แต่จะเป็นการนำหุ้นเดิมของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เข้าซื้อขายบนกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อรองรับการขยายฐานผู้ถือหุ้นให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพิ่มช่องทางระดมทุนในอนาคต ตลอดจนทำให้บริษัทฯ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในระดับภูมิภาค
ด้านนักวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 65 บาท โดยคาดแนวโน้มกำไรสุทธิปี 64 ยังเติบโตโดดเด่น ขณะที่การเเกิดไฟไหม้ส่วนต่อขายโรงงานถุงมือยาง ที่จ.สุราษฎ์ธานี กระทบปริมาณขายจำกัดเพียง 0.6% จึงแนะนำลงทุนระยะกลางถึงยาว

www.mitihoon.com