ฟันธงกำไรปี64เติบโต
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ภายหลังจากสร้างความฮือฮาในการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำเร็จ สร้างปรากฎการณ์ใหม่เป็นบริษัทที่มีนักลงทุนรายย่อยสนใจจองซื้อหุ้นโออาร์ มากถึง 530,000 รายการ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ผู้ดำเนินธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) และธุรกิจต่างประเทศ OR เป็นผู้ค้าปลีกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ ครองส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันติดต่อกันมากว่า 23 ปี โดยมีแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องภายหลังระดมทุนจากเงินไอพีโอได้ราว 5.4 หมื่นล้านบาท ลองมาดูมุมมองนักวิเคราะห์กันบ้างว่าเป็นอย่างไร
โบรกส่องกำไร OR ปี 64
ด้านนักวิเคราะห์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ OR คาดจะอยู่ที่ราว 10,213 ล้านบาท เติบโต 16 % จากปี 63 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันหลังวิกฤต COVID-19 คลี่คลาย พร้อมประเมินว่า ระยะกลางการเติบโตของบริษัทมาจากการขยายตัวของธุรกิจ Non-Oil และธุรกิจต่างประเทศกลุ่ม CLMV ซึ่งมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสูง ขณะที่ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในไทยยังสามารถเป็นแหล่งรายได้หลักและสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทต่อไปได้ อย่างก็ตามหากอิงสมมติกำไรสุทธิปี 64 ที่ 1.1-1.3 หมื่นล้านบาท EPS จะอยู่ที่ราว 0.92-1.08 บาท โดยอิง PE ที่ 27.3-32.1 เท่า
ส่วนนักวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า กำไรของ OR งวดไตรมาส 1/64 จะพลิกกลับมาเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน (QoQ) และทั้งปี 64 หลังจากสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลายลง หนุนให้ทุกกลุ่มธุรกิจกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ประกอบกับคาดว่าจะมีการขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และขยายสาขาของร้าน Café Amazon อย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมทั้งปี 64 เบื้องต้นคงประมาณการกำไรปกติไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 35% จากปีก่อนหน้า พร้อมคาดการจ่ายเงินปันผลปี 64 จะอยู่ที่ 24 บาท/หุ้น
Q4 กำไรดีกว่าคาด
ขณะที่ผลงานไตรมาส 4/63 OR มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาท แม้ว่าจะชะลอตัวลงแต่ยังทำได้ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มธุรกิจ Non-Oil ในประเทศที่รายได้ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นตามการขยายสาขาเครือข่ายในประเทศ ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งปี 63 จะอยู่ที่ 8.8 พันล้านบาท และจากผลงานงวดไตรมาส 4/63 OR ยังประกาศจ่ายปันผลอยู่ที่ 0.1 บาท/หุ้นอีกด้วย
คาดดีมานด์น้ำมันพุ่ง
ด้านนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ OR ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มปี 64 ความต้องการใช้น้ำมันของโลกในปี 64 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปอยู่ที่ระดับ 96.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตามรายงานของ IEA ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2564 และคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 64 จะอยู่ในช่วง 48.0 – 58.0 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากปี 63 โดยมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ (1) แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (2) ความร่วมมือระหว่าง OPEC ในการปรับลดกำลังการผลิตในปี 64 (3) ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำ และ (4) ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของกลุ่ม OPEC
ปี 64 เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง
โดย OR มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายเครือข่ายทั้งธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจ Non-Oil ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย ปี 63 มีสถานีบริการน้ำมัน PTT Station จำนวน 2,334 สถานี และร้าน Cafe Amazon จำนวน 3,575 สาขา และร้าน Texas Chicken จำนวน 78 แห่ง นอกจากนี้ OR ยังมีโครงการลงทุนที่สำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การก่อสร้างโรงงานเบเกอรี่ส่วนกลาง ศูนย์กระจายสินค้าสำหรับธุรกิจ Café Amazon โรงผลิตผงผสมเครื่องดื่ม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพ และควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ โดยมีแผนแล้วเสร็จภายในปีนี้ (ปี 64)
www.mitihoon.com
