ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ดู เดย์ ดรีม หรือ DDD ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์สเนลไวท์ อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมเลอซาช่าและยาสีฟันสปาร์คเคิล โดยนางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต 25-30% จากปีก่อน โดยมีกลยุทธ์การขยายตลาดที่มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะตลาดในประเทศและประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านการออกสินค้าใหม่ที่เน้นนวัตกรรมและตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและดูแลสุขภาพ
ด้วยการเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ “NAMU LIFE MIRACLE WHIITE” ทีช่วยให้ผิวสวย กระจ่างใส ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ภายใน 7 วันและกลุ่มผลิตภัณฑ์ SNAILWHITE ที่เน้นนวัตกรรมเพื่อผิวสุขภาพดี นอกจากนี้ยังมีการปรับกลยุทธ์การสื่อสารโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ การแต่งตั้งและร่วมมือกับผู้นำด้านการกระจายสินค้า DKSH ที่มีเครือข่ายการกระจายสินค้าครอบคลุมและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน การเพิ่มช่องทางการขายผ่าน Social Media และ Telesales ประกอบกับกลยุทธ์การจัดการการดำเนินงานภายใน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ภายในกลุ่มบริษัท และเพิ่มขีดความสามารถในการต่อรองของกลุ่มบริษัทฯให้มากขึ้น เช่น การใช้ประโยชน์จากความสามารถทางการผลิต โดยการนำสินค้าของกลุ่มบริษัทในเครือมาผลิตภายใต้โรงงานของบริษัทฯ การบูรณาการระบบหลังบ้านให้มีประสิทธิภาพ (Back office improvement) และการตั้งศูนย์รวมการจัดการด้านคลังสินค้าและการขนส่งของกลุ่มบริษัท เป็นต้น
ทั้งนี้ในปี 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 179.54 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปี 2562 ที่บริษัทขาดทุน 53.22 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,000.34 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 37.17 จากปี 2562 โดยในระหว่างปี 2563ที่ผ่านมาบริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการ กลุ่มบริษัท คิวรอน จำกัด เจ้าของแบรนด์อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมเลอซาช่าและยาสีฟันสปาร์คเคิล ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม และมีฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ
ในปี 2564 บริษัทฯมีวางแผนปรับกลยุทธ์การดำเนินงานและแผนการตลาดให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และทำให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ผ่านการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น อีกทั้งมีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นการจำหน่ายและการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ได้มีมติจ่ายเงินปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 เม.ย. 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพื่อขอมติอนุมัติต่อไป ซึ่งได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 12 มี.ค. 2564 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 15 มี.ค. 2564 และบริษัทมีกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10 พ.ค. 2564
www.mitihoon.com